วันศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

ดูดวง ทางโทรศัพท์ โหราศาสตร์ 10 ลัคนา ไพ่ยิปซี โ ห ร า ส า ด (ฉบับเรียนรู้โดยไม่ต้องถาม) โดย สอ้าน นาคเพชรพูล(สีดิน) บทที่ ๑๐ ดวงมหาอุจ






บริการ ดูดวง ทางโทรศัพท์ โหราศาสตร์ 10 ลัคนา ไพ่ยิปซี โหราศาสตร์พม่า พร้อมให้คำปรึกษาทุกปัญหา ทุกเรื่องทุกข์ใจ เรื่องในอนาคตที่คุณ อยากรู้คำตอบ ก่อนตัดสินใจ ความรัก คู่ครอง เนื้อคู่ แต่งงาน อาชีพการงาน การเงิน ครอบครัว ลูกหลาน บริวาร โรคภัย เรื่องที่ต้องระวัง โชคลาภ ข้อดีข้อเสียในภาพรวมพื้นฐานดวงชาตา

ดวงมหาอุจ เกี่ยวกับดวงราวในราศีต่าง ๆ ในหลักการทายหรือพยากรณ์ จะให้คุณหรือให้โทษแก่เจ้าชะตามากน้อย แตกต่างกัน สุดแต่เมื่อผูกดวงชะตาตามวันเดือนปีและเวลาเกิดของแต่ละคนแล้ว ดาวเหล่านั้นกระจายกันอยู่ในราศีใด บางราศีก็ให้คุณเต็มที่ บางราศีก็ให้คุณในระดับรองลงมา แต่ในบางราศีก็กลายเป็นให้โทษ และการให้โทษ ก็มีมากน้อยต่างกัน ซึ่งถ้าไม่หัดสังเกตหรือขาดประสพการก็ไม่สามารถจะเห็นได้ชัดเจน ต่อเมื่อคุ้นเคยมากขึ้น หรือผ่านการพยากรณ์ดวงจริงมากรายก็จะสามารถแยกความแตกต่างได้เอง เกี่ยวกับเรื่องนี้ในหลักการพยากรณ์ได้แยกออกเป็น 2 พวกหรือ 2 ฝ่าย ๆ ที่ให้คุณเริ่มมาตั้งแต่ดวงเกษตร มหาอุจ ราชาโชค มหาจักร ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งให้โทษ คือดวงนิจ ดวงประ แต่ในส่วนที่กล่าวนี้ บางครั้งบางคราว ก็อาจจะพลิกกลับได้เหมือนกัน ซึ่งตรงนั้นก็ต้องมีปัจจัยอื่นที่มีอิทธิพลเข้ามาเกี่ยวข้อง อย่างเช่นพฤหัสบดี ๕ เบื้องต้นถือกันว่าเป็นดาวศุภเคราะห์ให้คุณทางด้านวิชาการ คุณธรรม สติปัญญา เมื่ออยู่ในตำแหน่งเกษตร มหาอุจ มหาจักร ราชาโชค ก็ยิ่งให้คุณมากขึ้น แต่ถ้าในดวงชะตาต้องตกไปอยู๋ในเรือนของดาวกาลกิณี หรือมีดาวกาลกิณีราหู ๘ หรือเสาร์ ๘ เป็นต้นเข้ามาอยู่ด้วย คือร่วมราศีเดียวกัน หรือโคจรมาทับ ก็ย่อมมีผลเสียหายเกิดขึ้น ดังนี้เป็นต้น จึงอยากจะทำความเข้าใจกับท่านที่รักเอาไว้ตรงนี้ว่า ดาวในกลุ่มที่ว่าให้คุณหรือให้โทษนั้น ในระดับการพยากรณ์ที่สูงขึ้นไป สามารถพลิกกลับได้จากหน้ามือเป็นหลังมือ อาจจะจากรอบอายุของเจ้าชะตาบ้าง เช่นเป็นกาลกิณีจร หรือจากการโคจรของดาวบ้าง เช่นการเข้าเรือนมรณะ อริ หรือโคจรถอยหลัง ดังนั้นท่านจึงต้องใช้ความรอบคอบมากขึ้นเป็นลำดับ สำหรับดวงมหาอุจ เป็นดวงที่ให้คุณอีกประเภทหนึ่ง ระดับความดีงามในการให้คุณเรียกว่าสูงสุดก็ว่าได้ แต่ความเป็นมาของการกำหนดว่าดาวใดอยู่ในราศีใดเป็นมหาอุจ ยังไม่พบจากตำนานเล่มใด ๆ แต่เมื่อนำมาใช้ทางการทายหรือพยากรณ์ ก็ให้คุณตามที่กล่าวไว้จริง ตำแหน่งดาวมีดังนี้ จันทร์ ๒ สถิตราศีพฤษภ อาทิตย์ ๑ สถิตราศีเมษ ศุกร์๖ สถิตราศีมีน พฤหัสบดี ๕ สถิตราศีกรกฏ อังคาร ๓ สถิตราศีมังกร พุธ ๔ สถิตราศีกันย์ เสาร์ ๗ สถิตราศีตุลย์ ราหู ๘ สถิตราศีพิจิก หากท่านจะลองเขียนรูปดวงประกอบ จะสังเกตุเห็นว่า มีดาวที่เล็งหรืออยู่ตรงกันข้าม เป็นคู่ ๆ ดังนี้จันทร์ ๒ เล็งราหู ๘ ศุกร์ ๖ เล็งกับพุธ ๔ สองคู่นี้ค่าตัวเลขรวมได้ 10 อีก 2 คู่ คืออาทิตย์ ๑ เล็งเสาร์ ๘ พฤหัสบดี ๕ เล็งอังคาร ๓ สองคู่นี้รวมกันได้ 8 หรือเมื่อรวมกันจนเป็นเลขตัวเดียวจะเท่ากับ 9 คำพยากรณ์ดวงมหาอุจก็ยังเป็นไปในแนวทางของดาวแต่ละดาว เช่นเดียวกับดวงเกษตรและประ เช่น อาทิตย์ ๑ เกี่ยวกับชื่อเสียงเกียรติยศ เมื่อเป็นมหาอุจ จะเด่นเรื่องชื่อเสียงจนเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปในระดับแนวหน้า หรือเรียกว่าดังง่ายนั่นเอง ดาวศุกร์ ๖ ซึ่งหมายถึงการเงินหรือที่นิยมเรียกกันว่าขุนคลัง ถ้าได้ตำแหน่งมหาอุจ ก็จะมีฐานะทางการเงินดี ความรักราบรื่น หาเงินเก่ง เงินไม่ขาดมือ ดังนี้เป็นต้น
ดูดวง ทางโทรศัพท์ โหราศาตร์ 10 ลัคนา ไพ่ยิบซี

ดูดวง ทางโทรศัพท์ โหราศาสตร์ 10 ลัคนา ไพ่ยิปซี โ ห ร า ส า ด (ฉบับเรียนรู้โดยไม่ต้องถาม) โดย สอ้าน นาคเพชรพูล(สีดิน) บทที่ ๙ ดวงปรเกษตร (หรือดวงประ)





บริการ ดูดวง ทางโทรศัพท์ โหราศาสตร์ 10 ลัคนา ไพ่ยิปซี โหราศาสตร์พม่า พร้อมให้คำปรึกษาทุกปัญหา ทุกเรื่องทุกข์ใจ เรื่องในอนาคตที่คุณ อยากรู้คำตอบ ก่อนตัดสินใจ ความรัก คู่ครอง เนื้อคู่ แต่งงาน อาชีพการงาน การเงิน ครอบครัว ลูกหลาน บริวาร โรคภัย เรื่องที่ต้องระวัง โชคลาภ ข้อดีข้อเสียในภาพรวมพื้นฐานดวงชาตา



ดวงปรเกษตร (หรือดวงประ) ดวงประเป็นดวงที่ดาวสลับเรือนเกษตรนั่นเอง เช่น อาทิตย์ ๑ ไปอยู่แทนราหู ๘ ในราศีกุมภ์ ราหูไปแทนอาทิตย์ ๑ ในราศีสิงห์ จันทร์ ๒ ไปอยู่แทนเสาร์ ๗ ในราศีมังกร เสาร์ ๗ ไปแทนจันทร์ ๒ในราศีกรกฏ อังคาร ๓ ราศีเมษไปอยู่แทนศุกร์ ๖ ในราศีตุลย์ ศุกร์ ๖ ในราศีตุลย์ไปแทนอังคาร ๓ ราศีเมษ อังคาร ๓ ราศีพิจิกไปอยู่แทนศุกร์ ๖ ในราศีพฤษภ ศุกร์ ๖ ในราศีพฤษภไปแทนอังคาร ๓ ราศีพิจิก พุธ ๔ ราศีเมถุนไปอยู่แทนพฤหัสบดี ๕ ในราศีธนู พฤหัสบดี ๕ ในราศีธนูไปแทนพุธ ๔ ราศีเมถุน พุธ ๔ ราศีกันย์ไปอยู่แทนพฤหัสบดี ๕ ในราศีมีน พฤหัสบดี ๕ ในราศีมีนไปแทนพุธ ๔ ราศีกันย์ พฤหัสบดี ๕ ราศีธนูไปอยู่แทนพุธ ๔ ในราศีเมถุน พุธ ๔ ในราศีเมถุนไปแทนพฤหัสบดี ๕ ราศีธนู พฤหัสบดี ๕ ราศีมีนไปอยู่แทนดาวพุธ ๔ ในราศีกันย์ พุธ ๔ ในราศีกันย์ไปแทนพฤหัสบดี ๕ ในราศีมีน ศุกร์ ๖ ในราศีพฤษภไปอยู่แทนอังคาร ๓ ในราศีพิจิก อังคาร ๓ ในราศีพิจิกไปแทนศุกร์ ๖ ในราศีพฤษภ ศุกร์ ๖ ในราศีตุลย์ ไปอยู่แทนอังคาร ๓ ในราศีเมษ อังคาร ๓ ราศีเมษไปแทนศุกร์ ๖ ในราศีตุลย์ เสาร์ ๗ ในราศีมังกร ไปอยู่แทนจันทร์ ๒ ในราศีกรกฏ จันทร์ ๒ ในราศีกรกฏไปแทนเสาร์ ๗ ในราศีมังกร ราหู ๘ ในราศีกุมภ์ ไปอยู่แทนอาทิตย์ ๑ ในราศีสิงห์ อาทิตย์ ๑ ราศีสิงห์ไปแทนราหู ๘ ในราศีกุมภ์ สำหรับคำทำนายจะเป็นไปในทำนองตรงกันข้ามกับดวงเกษตรเป็นส่วนมาก เช่นดาว ๖ เป็นประ เสียทางด้านการเงินและความรัก บางรายอารมย์ทางเพศเสื่อมเร็ว ไม่ชอบการแต่งตัว ดังนี้เป็นต้น ที่กล่าวมาทั้งดวงเกษตรและดวงประตลอดจนคำทำนายหรือคำพยากรณ์ เป็นเพียงแนวทางหรือพื้นฐานของแต่ละดาวเท่านั้น ยังไม่เกี่ยวกับเรือนชะตา ซึ่งในระดับสูงขึ้นไปจะนำเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เช่นเดียวกับดวง 8 ราศีจักรหรือที่เรียกกันทั่วไปว่าดวงทักษา ก็ยังไม่นำเข้ามาเกี่ยวโยง ทั้งนี้เกรงท่านจะสับสนแล้วใจเสาะหนีเรียนเสียก่อน โดย สอ้าน นาคเพชรพูล(สีดิน) บทที่ ๙ ดวงปรเกษตร (หรือดวงประ) ดวงประเป็นดวงที่ดาวสลับเรือนเกษตรนั่นเอง เช่น อาทิตย์ ๑ ไปอยู่แทนราหู ๘ ในราศีกุมภ์ ราหูไปแทนอาทิตย์ ๑ ในราศีสิงห์ จันทร์ ๒ ไปอยู่แทนเสาร์ ๗ ในราศีมังกร เสาร์ ๗ ไปแทนจันทร์ ๒ในราศีกรกฏ อังคาร ๓ ราศีเมษไปอยู่แทนศุกร์ ๖ ในราศีตุลย์ ศุกร์ ๖ ในราศีตุลย์ไปแทนอังคาร ๓ ราศีเมษ อังคาร ๓ ราศีพิจิกไปอยู่แทนศุกร์ ๖ ในราศีพฤษภ ศุกร์ ๖ ในราศีพฤษภไปแทนอังคาร ๓ ราศีพิจิก พุธ ๔ ราศีเมถุนไปอยู่แทนพฤหัสบดี ๕ ในราศีธนู พฤหัสบดี ๕ ในราศีธนูไปแทนพุธ ๔ ราศีเมถุน พุธ ๔ ราศีกันย์ไปอยู่แทนพฤหัสบดี ๕ ในราศีมีน พฤหัสบดี ๕ ในราศีมีนไปแทนพุธ ๔ ราศีกันย์ พฤหัสบดี ๕ ราศีธนูไปอยู่แทนพุธ ๔ ในราศีเมถุน พุธ ๔ ในราศีเมถุนไปแทนพฤหัสบดี ๕ ราศีธนู พฤหัสบดี ๕ ราศีมีนไปอยู่แทนดาวพุธ ๔ ในราศีกันย์ พุธ ๔ ในราศีกันย์ไปแทนพฤหัสบดี ๕ ในราศีมีน ศุกร์ ๖ ในราศีพฤษภไปอยู่แทนอังคาร ๓ ในราศีพิจิก อังคาร ๓ ในราศีพิจิกไปแทนศุกร์ ๖ ในราศีพฤษภ ศุกร์ ๖ ในราศีตุลย์ ไปอยู่แทนอังคาร ๓ ในราศีเมษ อังคาร ๓ ราศีเมษไปแทนศุกร์ ๖ ในราศีตุลย์ เสาร์ ๗ ในราศีมังกร ไปอยู่แทนจันทร์ ๒ ในราศีกรกฏ จันทร์ ๒ ในราศีกรกฏไปแทนเสาร์ ๗ ในราศีมังกร ราหู ๘ ในราศีกุมภ์ ไปอยู่แทนอาทิตย์ ๑ ในราศีสิงห์ อาทิตย์ ๑ ราศีสิงห์ไปแทนราหู ๘ ในราศีกุมภ์ สำหรับคำทำนายจะเป็นไปในทำนองตรงกันข้ามกับดวงเกษตรเป็นส่วนมาก เช่นดาว ๖ เป็นประ เสียทางด้านการเงินและความรัก บางรายอารมย์ทางเพศเสื่อมเร็ว ไม่ชอบการแต่งตัว ดังนี้เป็นต้น ที่กล่าวมาทั้งดวงเกษตรและดวงประตลอดจนคำทำนายหรือคำพยากรณ์ เป็นเพียงแนวทางหรือพื้นฐานของแต่ละดาวเท่านั้น ยังไม่เกี่ยวกับเรือนชะตา ซึ่งในระดับสูงขึ้นไปจะนำเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เช่นเดียวกับดวง 8 ราศีจักรหรือที่เรียกกันทั่วไปว่าดวงทักษา ก็ยังไม่นำเข้ามาเกี่ยวโยง ทั้งนี้เกรงท่านจะสับสนแล้วใจเสาะหนีเรียนเสียก่อน

ดูดวง ทางโทรศัพท์ โหราศาสตร์ 10 ลัคนา ไพ่ยิปซี โ ห ร า ส า ด (ฉบับเรียนรู้โดยไม่ต้องถาม) โดย สอ้าน นาคเพชรพูล(สีดิน) บทที่ ๘ ดวงเกษตร





บริการ ดูดวง ทางโทรศัพท์ โหราศาสตร์ 10 ลัคนา ไพ่ยิปซี โหราศาสตร์พม่า พร้อมให้คำปรึกษาทุกปัญหา ทุกเรื่องทุกข์ใจ เรื่องในอนาคตที่คุณ อยากรู้คำตอบ ก่อนตัดสินใจ ความรัก คู่ครอง เนื้อคู่ แต่งงาน อาชีพการงาน การเงิน ครอบครัว ลูกหลาน บริวาร โรคภัย เรื่องที่ต้องระวัง โชคลาภ ข้อดีข้อเสียในภาพรวมพื้นฐานดวงชาตา

ดวงเกษตร ได้บอกแล้ว ว่าดาวที่เข้าครอบครองในดวง 12 ราศีจักร ทั้งในภาคกลางวันกลางคืน มีการเรียกกันต่าง ๆ นา ๆ แล้วแต่นำมาใช้ในโอกาสไหน แต่ในตอนนี้ขอเรียกว่าดวงเกษตร เป็นดวงที่มีความสำคัญมากที่สุดในวิชาโหราสาด ถ้าเราจำได้แม่นยำ ในอันดับแรกเราก็สามารถจำดาวประจำตรียางค์แต่ละตรียางค์ได้ จำดาวประจำนวางค์ได้ ตลอดจนจำดาวทวาทศำศได้ด้วย ดาวเกษตรถือกันว่าเป็นดาวที่มีความมั่นคง ดาวใดได้ตำแหน่ง ดาวนั้นให้คุณต่อเนื่องยาวนาน แต่ในหลักของการพยากรณ์ ถือกันว่าแม้จะเป็นดาวบาปเคราะห์ ถ้าได้ตำแหน่งเกษตร ยังมีความดีอยู่บ้าง ไม่ร้ายอย่างที่คิด ยกเว้นเฉพาะดาวกาลกิณีมาเป็นเกษตรเท่านั้นที่ให้โทษ คำพยากรณ์ดาวเกษตรโดยย่อมีดังนี้ ดาวอาทิตย์ ๑ เป็นเกษตร เด่นเรื่องเกียรติยศชื่อเสียง ดาวจันทร์ ๒ เป็นเกษตรเป็นคนเรียบร้อย อ่อนน้อมถ่อมตนดี มักเกรงใจผู้อื่น มีเสน่ห์แก่ผู้พบเห็น ดาวอังคาร ๓ เป็นเกษตร ขยันขันแข็งการงาน เป็นนักต่อสู้ที่ดี ใจกว้าง ดาวพุธ ๔ เป็นเกษตรเป็นคนพูดดี พูดคล่องมีคนเชื่อถือ มีมนุษย์สัมพันธ์ดีกับบุคคลทั่วไป ดาวพฤหัสบดี ๕ มีคุณธรรมและวิชาการดี ดาวศุกร์ ๖ เป็นเกษตร ความรัก การเงินดี ชอบความสวยงาม และงานบันเทิงเริงรมย์ ดาวเสาร์ ๗ เป็นเกษตร มีหลักทรัพย์ เช่นบ้าน ที่ดิน ทำการเกษตรดี ดาวราหู ๘ เป็นเกษตร ให้คุณด้านต่างประเทศ เช่นทำงานติดต่อการค้าต่างประเทศ

ดูดวง ทางโทรศัพท์ โหราศาสตร์ 10 ลัคนา ไพ่ยิปซี โ ห ร า ส า ด (ฉบับเรียนรู้โดยไม่ต้องถาม) โดย สอ้าน นาคเพชรพูล(สีดิน) บทที่ ๗ ดวงราศีจักร



บริการ ดูดวง ทางโทรศัพท์ โหราศาสตร์ 10 ลัคนา ไพ่ยิปซี โหราศาสตร์พม่า พร้อมให้คำปรึกษาทุกปัญหา ทุกเรื่องทุกข์ใจ เรื่องในอนาคตที่คุณ อยากรู้คำตอบ ก่อนตัดสินใจ ความรัก คู่ครอง เนื้อคู่ แต่งงาน อาชีพการงาน การเงิน ครอบครัว ลูกหลาน บริวาร โรคภัย เรื่องที่ต้องระวัง โชคลาภ ข้อดีข้อเสียในภาพรวมพื้นฐานดวงชาตา
ในบทต้น ๆ ที่ผ่านมาได้บอกถึงที่ไปที่มาของดวง ๑๒ ราศีจักรเอาไว้ว่ามาจากแบ่งส่วนของโลกที่เราอาศัยนี้ออกเป็นส่วน ๆ เริ่มต้นมาจาก ๒ ส่วน ๔ ส่วน ๘ ส่วน ๑๒ ส่วน ตามลำดับ
แต่ในด้านการพยากรณ์เน้นกันที่ ดวงทักษาเป็นส่วนสำคัญ เพราะในดวงทักษา นอกจากกำหนดให้มีดาวครองในแต่ละส่วนแล้ว ยังมีคาถาสำคัญกำกับเอาไว้ด้วย ดังนั้นเมื่อแบ่งดวงทักษาออกเป็น ๑๒ ส่วน ก็ย่อมต้องมีคาถาและดาวครองในแต่ละส่วนด้วยเช่นกัน
คาถาดังกล่าวมีดังนี้
1. ตนุ 2. กะดุมพะ 3. สหัชชะ 4. พันธุ 5. ปุตตะ 6. อริ 7. ปัตะนิ 8. มรณะ 9. ศุภะ 10. กรรม 11. ลาภ12. วินาสน์ คาถาทั้ง 12 คำนี้มีหลักการนับทวนเข็มนาฬิกา โดยเริ่มนับตนุที่เรือนลัคนาหรือตนุเศษสถิต ไปจนถึงวินาสน์  ถ้าในดวงชะตาของใครก็ตามมีลัคนาและตนุเศษแยกกันอยู่คนละราศี ก็จะกลายเป็น 24 เรือนโดยอัตโนมัติ ซึ่งจะทายหรือพยากรณ์ยากขึ้นอีกเท่าตัว

ความหมายของคาถาทั้ง 12 คำ

1.       ตนุ คือตัวตนของเราเอง เช่นตนุของผมก็คือตัวผม ตนุของท่านก็คือตัวท่าน
2.       กะดุมพะ การเงิน หาเงิน หรือทรัพย์อื่นที่หาได้มา
3.       สหัชชะ เพื่อนหรือคนที่คบหาใกล้ชิดกัน วัยใกล้เคียงกัน เพื่อนร่วมงาน เพื่อนที่เคยเรียนมาด้วยกันเป็นต้น
4.       พันธุ หมายถึงบิดา-มารดา ต้นตระกูล เช่นญาติพี่น้อง พี่ ป้า น้า อา ลูกพี่ลูกน้องทั้งของตนเองและของคู่ครอง
5.       ปุตตะ บุตรหลาน เด็ก ๆ บุตรหรือหลานบุญธรรม เด็กกำพร้าที่เก็บมาเลี้ยง
6.       อริ ศัตรู อุปสรรค คู่แข่งขัน
7.       ปัตตะนิ คู่ครอง หุ้นส่วนทางธุรกิจ
8.       มรณะ ความตาย ความเสื่อม การไม่ได้รับความช่วยเหลือ
9.       ศุภะ ความเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน งานภายในบ้าน งานพิเศษ
10.    กรรมะ การงานหลัก งานอาชีพ ที่อาศัยรายได้สร้างตัวและครอบครัว
11.    ลาภะ ลาภผล อาจจะจากการงานที่ทำ เงินจากการเสี่ยงโชค หรือลงทุน
12.    วินาสน์ ความสงบ การไม่เปิดเผยชัดเจน ซ่อนเร้น การต้องจากกันไกล ๆ

ดาวประจำ 12 ราศี


ได้กล่าวไว้แล้วในบทที่ 4 ของเรื่องการแบ่งโลกออกเป็น 12 ส่วนหรือ 12 ราศี  ได้บอกที่มาของชื่อแต่ละราศีตลอดจนธาตุประจำราศี ในบทนี้จึงขอนำเอาสิ่งที่สำคัญ ๆ มาบอกกล่าวให้กับท่านผู้อ่านที่รักของผม ได้รู้แจ้งแทงตลอดว่า ในเส้นทางที่สามารถนำแต่ละคนไปสู่การเป็นนักพยากรณ์มีระดับนั้น ไม่มีอะไรยากจนเกินความสามารถ


หลักของการวางดาวประจำ 12 ส่วนหรือ 12 ราศีเพื่อที่จะจดจำได้ง่าย ท่านบุรพาจารย์ท่านยังแบ่งโลกออกเป็น 2 ส่วนเป็นหลัก คือลากเส้นตรงเส้นหนึ่ง จากต้นราศีสิงห์ไปต้นราศีกุมภ์ ก็จะได้ราศีภาคกลางวัน 6 ราศี คือ ราศีสิงห์ ราศีกันย์ ราศีตุลย์ ราศีพิจิก ราศีธนู ราศีมังกร โดยราศีสิงห์มีดาวอาทิตย์ ๑ เป็นดาวประจำราศี ดาวพุธ ๔ ประจำราศีกันย์ ดาวศุกร์ ๖ ประจำราศีตุลย์ ดาวอังคาร ๓ เป็นดาวประจำราศีพิจิก พฤหัสบดี ๕ เป็นดาวประจำราศีธนู ดาวเสาร์ ๗ เป็นดาวประจำราศีมังกร

ส่วนราศีภาคกลางคืนอีก 6 ราศี คือราศีกรกฏ ราศีมิถุนหรือเมถุน ราศีพฤษภ ราศีเมษ ราศีมีน และราศีกุมภ์ โดยราศีกรกฏมีดาวจันทร์ ๒ เป็นดาวประจำราศี ดาวพุธ ๔ ประจำราศีเมถุน ดาวศุกร์ ๖ ประจำราศีพฤษภ ดาวอังคาร ๓ ประจำราศีเมษ ดาวพฤหัสบดี ๕ ประจำราศีมีน ดาวเสาร์ ๗ หรือราหู ๘ ประจำราศีกุมภ์

ดาวประจำราศีทั้ง 12 ราศี บางโอกาสเช่นเมื่อผูกดวงแล้วจะเรียกว่าดาวเจ้าเรือน เช่นดาวเจ้าเรือนตนุ ดาวเจ้าเรือนกะดุมพะ ดาวเจ้าเรือนสหัชชะ ฯลฯ แต่โดยทั่วไปเรียกกันว่าดาวเจ้าเรือนเกษตร ดาวเกษตรหรือดาวเจ้าเรือนทั้ง 12 ราศีนี้ทุกคนที่จะเป็นโหรไม่ว่าโหรแบบไหนต้องจำได้โดยไม่ต้องนึก เพราะเป็นดาวที่มีบทบาทหลักในการออกคำพยากรณ์ ถ้าจำได้ ก็จะจำดาวตรียางค์ ดาวนวางค์หรือแม้ดาวเจ้าทวาทศำศ ได้โดยไม่ตั้งใจ

หลักการจำก็จำเพียงดาวประจำราศีหรือดาวเจ้าเรือนในภาคใดภาคหนึ่งก็พอ เพราะทั้ง 2 ภาคจะเหมือนกัน หรือถ้าเมื่อกำหนดโลกเราอยู่ในระหว่างพระอาทิตย์กับพระจันทร์ ดาวที่อยู่ถัดออกไปก็จะเป็น ๔-๖-๓-๕-๗ (๘) เหมือนกันทั้ง 2 ภาค และผลรวมของเลขที่แทนดาวในราศีตรงกันข้ามรวมกันจะได้ 9 เสมอ

อันโตนาที

นอกจากดาวที่ครอบครองประจำราศีต่าง ๆ แล้ว ในแต่ละราศียังได้กำหนดอัตราการโคจรหรือหมุนรอบตัว จากราศีหนึ่ง ไปอีกราศีหนึ่งเอาไว้ดังนี้คือ ราศีเมษ 120 อันโตนาที ราศีพฤษภ 96 อันโตนาที ราศีเมถุน 72 อันโตนาที ราศีกรกฏ 120 อันโตนาที ราศีสิงห์ 144 อันโตนาที ราศีกันย์ 168 อันโตนาที ราศีตุลย์ 168 อันโตนาที ราศีพิจิก 144 อันโตนาที ราศีมังกร 72 อันโตนาที ราศีกุมภ์ 96 อันโตนาที ราศีมีนสุดท้าย 120 อันโตนาที รวมกันทุกราศีจะเท่ากับ 1440 อันโตนาทีหรือเท่ากับ 1440 นาทีนาฬิกานั่นเอง 

ดูดวง ทางโทรศัพท์ โหราศาสตร์ 10 ลัคนา ไพ่ยิปซี โ ห ร า ส า ด (ฉบับเรียนรู้โดยไม่ต้องถาม) โดย สอ้าน นาคเพชรพูล(สีดิน) บทที่ ๖ ดวงทักษา

บริการ ดูดวง ทางโทรศัพท์ โหราศาสตร์ 10 ลัคนา ไพ่ยิปซี โหราศาสตร์พม่า พร้อมให้คำปรึกษาทุกปัญหา ทุกเรื่องทุกข์ใจ เรื่องในอนาคตที่คุณ อยากรู้คำตอบ ก่อนตัดสินใจ ความรัก คู่ครอง เนื้อคู่ แต่งงาน อาชีพการงาน การเงิน ครอบครัว ลูกหลาน บริวาร โรคภัย เรื่องที่ต้องระวัง โชคลาภ ข้อดีข้อเสียในภาพรวมพื้นฐานดวงชาตา
ดวงทักษานี้ในหลักการพยากรณ์ ได้เพิ่มคาถากำกับไว้ทั้งหมด 8 คำซึ่งท่านต้องจำได้ และเข้าใจความหมายของแต่ละบท ซึ่งมีดังนี้
v    บริวาร หมายถึงคนรอบข้างที่เราต้องดูแลรับผิดชอบ ภรรยา คนรับใช้ บุตรหลาน บิดามารดาและทุกคนในบ้าน ถ้าที่ทำงานก็คือคนที่อยู่ใต้บังคับบัญชา
v    อายุ หมายถึงการเจ็บป่วย สุขภาพ อายุยืนหรือไม่ สุขภาพดีหรือไม่ดี พิจารณาจากคาถาตัวนี้
v    เดช หมายถึงความน่ายำเกรง น่าเคารพ น่าเชื่อถือ
v    ศรี หมายถึงความดี ความมีโชค และมีสิ่งที่ดี ๆ
v    มูลละ หมายถึงที่อยู่อาศัย การเดินทาง ทรัพย์มรดก
v    อุตสาหะ ความหมั่นเพียร ความขยันขันแข็ง
v    มนตรี คือผู้คอยช่วยเหลืออุปถัมภ์ค้ำจุน
v    กาลกิณี ความไม่ดีหรือความชั่วทั้งปวง ความอับโชค

คาถาที่กล่าวมาทั้งหมดนี้จะเรียงกันไปตามลำดับ สลับกันไม่ได้เลย แต่ในการทายหรือพยากรณ์จะยกเอาคาถาตัวใดตัวหนึ่งมากล่าวก็ย่อมทำได้ ที่นิยมกันเป็นหลักคือ กาลีหรือกาลกิณี เพราะเป็นคาถาตัวที่ให้โทษหนักและรุนแรง ส่วนศรี มนตรี เดช ให้คุณตามลำดับมากน้อย นอกนั้นเป็นกลาง ๆ คือจะร้ายหรือดีก็ไม่มากนัก เป็นไปตามประเภทและกำลังของดาวแต่ละดาว

การนำเอาดวงทักษามาพยากรณ์มีอยู่ 2 แบบ คือดวงเดิมและดวงจร ดวงเดิมจะเริ่มต้นกันที่วันเกิดของแต่ละคน เช่นคนเกิดวันจันทร์ ก็เริ่มนับที่ดาวจันทร์ ๒ เป็นบริวาร ต่อจากนั้นก็นับอายุที่ดาวอังคาร ๓ คือวนตามเข็มนาฬิกานั่นเอง ดูตัวอย่างดังนี้
v    เกิดวันจันทร์ ๒ เป็นบริวาร ๓ เป็นอายุ ๔ เป็นเดช ๗ เป็นศรี ๕ เป็นมูลละ ๘ อุตสาหะ ๖ เป็นมนตรี และ ๑ เป็นกาลกิณี
v    เกิดวันอังคาร ๓ เป็นบริวาร ๔ เป็นอายุ ๗ เป็นเดช ๕ เป็นศรี ๘ เป็นมูลละ ๖ เป็นอุตสาหะ ๑ เป็นมนตรี ๒ เป็นกาลกิณี
v    เกิดวันพุธ ๔ เป็นบริวาร ๗ เป็นอายุ ๕ เป็นเดช ๘ เป็นศรี ๖ เป็นมูลละ ๑ เป็นอุตสาหะ ๒ เป็น มนตรี ๓ กาลกิณี
v    เกิดวันพฤหัสบดี ๕ เป็นบริวาร ๘ เป็นอายุ ๖ เป็นเดช ๑ เป็นศรี ๒ เป็นมูลละ ๓ เป็นอุตสาหะ ๔ เป็นมนตรี ๗ เป็นกาลกิณี
v    เกิดวันศุกร์ ๖ เป็นบริวาร ๑ เป็นอายุ ๒ เป็นเดช ๓ เป็นศรี ๔ เป็นมูลละ ๗ เป็นอุตสาหะ ๕ เป็นมนตรี ๘ เป็นกาลกิณี
v    เกิดวันเสาร์ ๗ เป็นบริวาร ๕ เป็นอายุ ๘ เป็นเดช ๖ เป็นศรี ๑ เป็นมูลละ ๒ เป็นอุตสาหะ ๓ เป็นมนตรี ๔ เป็นกาลกิณี
v    เกิดวันอาทิตย์ ๑ เป็นบริวาร ๒ เป็นอายุ ๓ เป็นเดช ๔ เป็นศรี ๗ เป็นมูลละ ๕ อุตสาหะ ๘ เป็นมนตรี ๖ เป็นกาลกิณี

การทายดวงทักษาเดิม

การทายหรือพยากรณ์ดวงทักษาเดิมเริ่มกันที่วันเกิดเป็นสำคัญ คือเมื่อนับกันตามวันเกิดแล้วดาวอะไรเป็นกาลกิณี ถือว่าดาวนั้นให้โทษ และการจะให้โทษในเรื่องอะไร ก็เกี่ยวกับดาวนั้น ๆ เป็นเกณฑ์ ในส่วนของดาวที่ให้คุณก็เช่นเดียวกัน ดาวที่ให้คุณมากคือดาวศรี สำหรับดาวที่เป็นมนตรี และเดชให้คุณรองลงไป นอกนั้นเป็นพวกที่ให้คุณหรือให้โทษกลาง ๆ เช่น
v    เช่นคนเกิดวันจันทร์ ดาวอาทิตย์ ๑ เป็นกาลกิณี การจะได้มาซึ่งชื่อเสียงเกียรติยศหรือตำแหน่งหน้าที่การงานย่อมยากและมักมีอุปสรรค ดาวเสาร์ ๗ เป็นศรีก็ย่อมดีทางด้านหลักฐานทรัพย์สิน โทษทุกข์ก็เบาบางไป
v    คนเกิดวันอังคาร ดาวจันทร์ ๒ เป็นกาลกิณี ทำให้ขาดความมีเสน่ห์ในความงามหรือความประทับใจ ดาวพฤหัสบดี ๕ เป็นศรี มักได้รับการส่งเสริมจากผู้บังคับบัญชาหรือได้รับความเมตตาจากผู้ใหญ่ ความรู้และคุณธรรมดี
v    คนเกิดวันพุธ ดาวอังคาร ๓ เป็นกาลกิณี ความขยันขันแข็งไม่ค่อยมีคุณค่า เหนื่อยแล้วไม่คุ้ม และยังทำให้เกิดอุบัติเหตุง่ายดาวราหู ๘ เป็นศรี น้ำใจกว้างขวาง ตรงไปตรงมา ดีทางด้านต่างประเทศ การเสี่ยงโชคดี มักมีการได้โชคลาภอย่างไม่คาดคิด
v    คนเกิดวันพฤหัสบดี ดาวเสาร์ ๗ เป็นกาลกิณีย่อมมีความเสียหาย มักมีทุกข์มากกว่าปกติ หลักทรัพย์ไม่มั่นคง มักมีการบาดเจ็บ ผิดหวัง ดาวอาทิตย์ ๑ เป็นศรี เกียรติยศชื่อเสียงดี การก้าวหน้าในตำแหน่งการงานราบรื่น มักเป็นที่นิยมแก่คนทั่วไป
v    คนเกิดวันศุกร์ ดาวราหู ๘ เป็นกาลกิณีเสียด้านการต่างประเทศ ถ้าทำงานเกี่ยวกับต่างประเทศจะมีอุปสรรคมาก การเสี่ยงโชคไม่ดี ดาวอังคาร ๓ เป็นศรีขยันขันแข็งดี เอาจริงเอาจังการงานอดทนไม่ท้อถอยง่าย ๆ  ไม่ค่อยมีอุบัติเหตุรุนแรง
v    คนเกิดวันเสาร์ ดาวพุธ ๔ เป็นกาลกิณี เสียเรื่องการพูด เป็นคนพูดตรง แข็งกร้าว เสียด้านการติดต่อประชาสัมพันธ์ การสื่อสาร ดาวศุกร์ ๖ เป็นศรีการเงินดี ความรักดี ชอบการบันเทิงเริงรมย์ มักมีลาภทางด้านการเงิน
v    คนเกิดวันอาทิตย์ ดาวศุกร์ ๖ เป็นกาลกิณี ความรักไม่ค่อยหวานชื่นการเงินมักใช้จ่ายฟุ่มเฟือย รายจ่ายมากกว่ารายรับ ความเป็นปึกแผ่นด้านการเงินช้า ชีวิตรักสะดุดไม่ราบรื่น ดาวพุธ ๔ เป็นศรี พูดจาดีมีคนเชื่อถือ ดีทางด้านการติต่อค้าขาย เป็นนักพูดนักเขียนที่ได้รับการยกย่อง
v    เนื่องจากคนเกิดวันราหูไม่มี ดังนั้นดาวพฤหัสบดี ๕ จึงไม่เป็นกาลกิณีเดิม และดาวจันทร์ ๒ ก็ไม่เป็นศรีเดิมให้กับใคร วันมีเพียง ๗ วัน ไม่เคยได้ยินว่ามีวันราหู ๘ ไม่เคยเห็นว่าสัปดาห์หนึ่งมี ๘ วันตามที่โหราจารย์บางท่านนิยมกัน

ที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นการทายหรือพยากรณ์ที่จับเอาเฉพาะพื้นฐาน ศรีและกาลกิณีเท่านั้น  สำหรับดาวที่อยู่ในตำแหน่งอื่น ๆ เช่น  บริวาร อายุ เดช มูลละ อุตสาหะ มนตรี ก็พยากรณ์ไปในแนวเดียวกัน และยังยึดความหมายของดาวแต่ละดาวเป็นแนวทาง


การทายดวงทักษาจร
การทายหรือพยากรณ์ดวงทักษาจร มีอยู่ 2 แบบ คือทายจรไปตามจำนวนอายุย่างของเจ้าชะตาแต่ละคน ซึ่งเรียกว่าจรปี และยังมีการทายจรเดือนอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งเริ่มจากเดือนที่เกิด นับต่อจากจุดทายจรปีนั่นเอง แต่ในตอนนี้จะกล่าวถึงการทายหรือพยากรณ์จรปีก่อน การทายจรในดวงทักษาให้ถืออายุย่างเป็นหลักการทายจรปี เช่นคนเกิดวันที่ 13 พฤศจิกายน 2479 อายุจะเต็มในวันที่ 13 พฤศจิกายน ของทุกปี พอวันที่ 14 พฤศจิกายน จะถือเป็นอายุย่าง ตามที่สมมุตินี้ ถึงวันที่ 13 พฤศจิกายน 2548 เท่ากับอายุเต็ม 69 พอวันที่ 14 เดือนเดียวกันอายุย่าง 70 ปีดังนี้เป็นต้น

การทายหรือพยากรณ์จรไปตามอายุของเจ้าชะตานี้ เริ่มต้นกันที่ทักษาเดิม คือคนเกิดวันอะไร มีดาวอะไรเป็นบริวารเดิม นับอายุ 1-10-19-28-37-46-55-64-73-82 ขวบปีที่ตำแหน่งดาวบริวารเดิม แล้วนับปีต่อไปที่ช่องถัดไป ปีละช่อง การนับต้องวนไปตามเข็มนาฬิกา แต่ต้องจำไว้เสมอว่า เมื่อนับมาถึงช่องอาทิตย์ ๑ พอปีต่อไปให้นับเข้าช่องกลางก่อนเสมอ แล้วจึงขึ้นไปที่ช่องจันทร์ ๒ ถ้าอายุตกช่องกลางนี้พอดี ให้ใช้พฤหัสบดี ๕ เป็นบริวาร ราหู ๘ เป็นอายุ ศุกร์ ๖ เป็นเดช อาทิตย์ ๑ เป็นศรี จันทร์ ๒ เป็นมูลละ อังคาร ๓ เป็นอุตสาหะ พุธ ๔ เป็นมนตรี เสาร์ ๗ เป็นกาลกิณี ต่อจากนั้นจึงนับอายุจรในปีถัดไปที่จันทร์ ๒ อังคาร ๓ พุธ ๔ เสาร์ ๗ พฤหัสบดี ๕ ราหู ๘ ศุกร์ ๖ อาทิตย์ ๑ อายุจรในปีถัดไปก็นับที่อังคาร ๓ ปีถัดไปนับที่ พุธ ๔ ปีถัดไปนับที่เสาร์ ๗ ปีถัดไปที่ พฤหัสบดี ๕ ปีถัดไปที่ราหู ๘ ปีถัดไปที่ ศุกร์ ๖ ปีถัดไปที่ อาทิตย์ ๑ ปีถัดไปจึงลงไปตากลางอีก ทำดังนี้วนกันไปจนถึงปีที่ต้องการพยากรณ์ ซึ่งโดยมากก็แค่ปีที่เจ้าชะตามาให้พยากรณ์ เรียกว่าจรปัจจุบัน ถ้าล่วงหน้าไปจะกี่ปีก็ตามเรียกว่าการทายจรอนาคต แต่การทายที่สำคัญมากและผิดไม่ได้คือการทายย้อนหลัง การทายย้อนหลังจะกี่ปีก็ตามเรียกว่าทายจรอดีต การทายอดีตถูกต้อง นอกจากจะสร้างความเชื่อถือที่ดีแล้วยังเป็นการตรวจดวงชะตาว่าถูกต้องหรือไม่ด้วย ดังนั้นจึงใคร่ขอเตือนบรรดานักพยากรณ์ทั้งหลายว่าควรรอบคอบเป็นอย่างยิ่ง เพราะหากท่านทายผิดมันไม่ได้เสียที่ตัวท่านคนเดียว แต่มันจะโยงไปถึงครูบาอาจารย์ด้วยโดยไม่ตั้งใจเสมอ

คำพยากรณ์จรในดวงทักษา

การพยากรณ์จรในดวงทักษา ก็ยังยึดหลักของดวงเดิม ต่างกันบ้างก็ตรงที่นอกจากถือความหมายของดาวแต่ละดาวเป็นหลักการทายแล้ว ยังใช้เรือนทักษาที่ดาวนั้น ๆ ครองด้วย เช่นคนที่เกิดวันอาทิตย์ ย่อมได้ดาวอาทิตย์ ๑ เป็นบริวารเดิม และดาวอาทิตย์ ๑ จะเป็นดาวบริวารเดิมอยู่จนอายุ 1 ขวบเต็ม พออายุจรย่าง 2-11-20-29-38-47-56-65-74-83 ปีก็จะเข้าตากลาง ใช้พฤหัสบดี ๕ เป็นบริวารจร ราหู ๘ เป็นอายุจร ศุกร์ ๖ เป็นเดชจร อาทิตย์ ๑ เป็นศรีจรจันทร์ ๒ เป็นมูลละจร อังคาร ๓ เป็นอุตสาหะจร พุธ ๔ เป็นมนตรีจร เสาร์เป็นกาลกิณีจร พออายุจรย่าง 3-12-21-30-39-48-57-66-75-84 ปี ก็จะขึ้นไปที่ช่องจันทร์ ๒ จันทร์ ๒ ก็จะเป็นบริวารจร อายุจรย่าง 4-13-22-31-40-49-58-67-76-85 ปี จะไปที่ช่องอังคาร ๓ อังคาร ๓ ก็จะเป็นบริวารจร อายุจรย่าง 5-14-23-32-41-50-59-68-77-86 ปี จะไปที่ช่องพุธ ๔ พุธ ๔ ก็จะเป็นบริวารจร อายุจรย่าง 6-15-24-33-42-51-60-69-78-87 ปี ก็จะไปที่ช่องเสาร์ ๗ เสาร์ ๗ จะเป็นบริวารจร อายุจรย่าง 7-16-25-34-43-52-61-70-79-88 ปี จะไปที่ช่องพฤหัสบดี ๕ พฤหัสบดี ๕ จะเป็นบริวารจร อายุจรย่าง 8-17-26-35-44-53-62-71-80-89 ปี จะไปที่ช่องราหู ๘ ราหู ๘ จะเป็นบริวารจร พออายุจรย่าง 9-18-27-36-45-54-63-72-81-90 ปี จะไปที่ช่องศุกร์ ๖ ศุกร์ ๖ จะเป็นบริวารจร ต่อจากนั้นพออายุ 10-19-28-37-46-55-64-73-82-91 ปี ทักษาจรปีจะไปตกที่ทักษาเดิมหรือทักษากำเนิด เมื่อเป็นเช่นนี้ก็เท่ากับอาทิตย์ ๑ เป็นทั้งบริวารเดิมและบริวารจร เรือนทักษาอื่น ๆ หรือที่ผมเรียกว่าคาถาประจำเรือนทักษา ก็จะเป็นทั้งเดิมและจรพร้อมกัน เช่นเดิมเป็นอายุก็จะเป็นอายุจร เดชเดิมก็จะเป็นเดชจร ศรีเดิมก็จะเป็นศรีจร มูลละเดิมก็จะเป็นมูลละจร อุตสาหะเดิมก็จะเป็นอุตสาหะจร มนตรีเดิมก็จะเป็นมนตรีจร กาลกิณีเดิมจะเป็นกาลกิณีจร หมายถึงว่าอะไรที่เคยดีก็จะดีเป็น 2 เท่า ถ้าร้ายก็จะร้ายเป็น 2 เท่าทันที เช่นถ้าคนที่เกิดวันพุธ อังคาร ๓ เดิมจะเป็นกาลกิณี พออายุจรมาตกที่พุธ ๔ อังคาร ๓ ก็เป็นกาลกิณีจร แบบนี้เข้าทำนองอังคาร ๓ กาลกิณีเดิมเป็นกาลกิณีจรแรงเป็น 2 เท่า ขับรถชนคนตาย บางรายถึงกับตนเองเสียชีวิตด้วย ถ้าหากจะกล่าวถึงแนวทางด้านการพยากรณ์ดวงทักษาจรพอจะสรุปได้ดังนี้
v    บริวารเดิมเป็นกาลกิณีจรทายได้ว่าต้องระวังลูกน้อง หรือผู้ใต้บังคับบัญชาสร้างความเสียหายให้ หรือไม่ก็คนในบ้านทำให้ต้องเดือดร้อน เสียเงินทอง แต่ถ้าบริวารเดิมเป็นศรี มนตรี เดชจรจะกลายเป็นว่าลูกน้องหรือผู้ใต้บังคับบัญชา หรือคนในบ้านดี อยู่ในโอวาท ไม่สร้างความเดือดร้อนใจให้ อาจจะได้ลาภผลจากบริวารด้วย ถ้าตำแหน่งกลาง ๆ ก็ถือว่าดีมากว่าร้าย
v    อายุเดิมเป็นกาลกิณีจร ทายได้ว่าในช่วงนั้นต้องระวังเกี่ยวกับสุขภาพ อาจต้องพบหมอบ่อย เพราะเจ็บป่วยบ่อย แต่ถ้าเป็นศรี มนตรี เดชจรก็ถือว่าสุขภาพอยู่ในเกณฑ์ดี ถ้าอยู่ในตำแหน่งกลาง ๆ จะดีมากว่าร้าย
v    เดชเดิมเป็นกาลกิณีจร ถูกใส่ร้ายป้ายสี  นินทาว่าร้ายทำให้เสียชื่อจากบุคคลอื่น แต่ถ้าเป็นศรี มนตรี เดชจร จะได้รับความเกรงขามจากคนรอบข้าง หรือได้รับการสรรเสริญเยินยอต่าง ๆ นา ๆ ถ้าเป็นกลางก็ไม่เสียหาย แต่ก็ไม่เด่นนัก
v    ศรีเดิมเป็นกาลกิณีจร ถือว่าเสียหายบ้างแต่ก็ไม่หมดเสียทีเดียว ได้ครึ่งเสียครึ่ง ถ้าคิดหวังอะไรไว้ก็ได้ไม่เต็มตามที่ต้องการ แต่ถ้าศรีเดิมเป็นศรี มนตรี เดชจร ดีเป็น 2 เท่าต้องการอะไรได้สมความปรารถนาทุกประการ ถ้าอยู่ในตำแหน่งกลาง ๆ เช่นเป็นบริวารจร อายุจร มูลละจร อุตสาหะจรไม่เป็นไรยังมีดีมากกว่าร้าย
v    มูลละเดิมเป็นกาลกิณีจร เดินทางย้ายบ้าน ย้ายงาน คิดขายของเก่ากิน เช่นขายบ้านหรือที่ดินที่เป็นมรดกเดิม แล้วก็ไม่ได้ราคาดี แถมบางรายขายมาได้ก็ปลดหนี้หมด ไม่มีเหลือ ถ้ามูลละเดิมเป็นศรี มนตรี เดชจรขายได้ราคาดี หรือถ้าซื้อต่อไปข้างหน้าจะมีค่ามากกว่าเดิม หรือซื้อของแพงได้ในราคาถูก ถ้าอยู่ในตำแหน่งอื่นยังถือว่าดีมากกว่าเสีย
v    อุตสาหะเดิมเป็นกาลกิณีจร ท้อแท้ เบื่องาน ออกจากงาน คิดทำอะไรก็ไม่มั่นคง ถ้าเป็นศรี มนตรี เดชกลับดี ขยันหมั่นเพียรในการทำงาน ทำงานอย่างทุ่มเท สนใจหน้าที่การงานอย่างดี ถ้าอยู่ในตำแหน่งกลาง ๆ เช่นเป็นบริวารจร อายุจร มูลละจรก็ไม่มีอะไรเสียหาย
v    มนตรีเดิมเป็นกาลกิณีจร เสียบิดามารดา ขาดผู้อุปถัมภ์ หากต้องไปขอความช่วยเหลือจากใครมักผิดหวัง ถ้าศรี เดชจรกลับดีขึ้น คือจะมีคนให้ความเป็นห่วงเป็นใย ทำกิจการอะไรมีคนให้ความช่วยเหลือ เป็นอย่างอื่นก็ถือว่าไม่เสีย อาจมีดีบ้าง
v    กาลกิณีเดิมเป็นกาลกิณีจรให้โทษเป็น 2 เท่าเสมอ ต้องระวัง แม้จะเป็นศรี มนตรี เดชจรก็ไม่ควรไว้ใจ  ยิ่งเป็นกลางก็ถือว่ายังร้าย เผลอหรือประมาทเมื่อใดได้เรื่อง

ที่นำมาสรุปไว้ข้างบนนี้เป็นเพียงหลักทั่วไปในการพยากรณ์ดวงทักษาจร การที่ท่านใดจะปรับปรุงตบแต่งคำพยากรณ์ให้สละสลวยงดงามกว่าที่ผมว่า ยิ่งเป็นการดี แต่ก็จะไม่หนีข้อสำคัญเหล่านี้ไปได้ หากท่านเข้าใจทั้งหลักการทายดวงทักษาเดิม ดวงทักษาจรปี และดวงทักษาจรเดือนแล้ว การจะก้าวเลื่อนชั้นขึ้นไปทายดวง 12 ราศีจักรก็จะไม่เป็นการยาก
แต่ก่อนจะถึงตรงนั้นขอรวบรัดเอาการทายจรเดือนมากล่าวกันก่อนสักเล็กน้อย เพราะแม้จะนำมาใช้ไม่บ่อยนักแต่ทุกท่านที่สนใจวิชาโหราสาดตามแนวเดียวกับผม ก็ควรทราบไว้บ้าง

การทายจรเดือน

เป็นที่รู้กันแล้วว่าการทายจรปีต้องเริ่มต้นมาจากดวงทักษาเดิม ดังนั้นเมื่อเราต้องการทายลึกลงไปถึงจรเดือนก็ต้องมาเริ่มกันที่จรปี สมมุติคนเกิดวันศุกร์ที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๔๗๙ ทายจรปีมาถึงปีนี้ คือปี ๒๕๔๘ เท่ากับอายุย่าง ๖๙  ดวงทักษาเดิมตกที่ศุกร์ ๖ เป็นบริวาร ฯลฯ ทักษาจรปีก็จะมาตกที่พุธ ๔ พุธ ๔ เป็นบริวารจรปี ดังนั้นทักษาจรเดือนก็ต้องเริ่มต้นที่พุธ ๔ คือนับเดือนเกิด พฤศจิกายนที่พุธ ๔ นับเดือนธันวาคมที่เสาร์ ๗ เดือนมกราคมที่พฤหัส ๕ ซึ่งจะตรงกับความเป็นจริงในข้อที่ว่าเจ้าชะตาที่สมมุตินี้อายุจะเต็ม ๖๙ ในเดือนเกิด คือเดือนพฤศจิกายน วันที่ ๑๓ พอขึ้นวันที่ ๑๔ เท่ากับอายุย่าง ๗๐ ปี


อ่านตามภาษาการพยากรณ์ว่า ศรีเดิมคืออังคาร ๓ เป็นกาลกิณีจรปี เป็นกาลกิณีจรเดือนในเดือนพฤศจิกายน และจะเป็นมนตรีจรเดือน ในเดือนธันวาคม คำพยากรณ์ก็จะออกมาว่าในปีที่อายุ ๖๙ นั้นต้องระวังเกี่ยวกับอุบัติเหตุ และที่แรงมากขึ้นก็คือเดือนพฤศจิกายนหรือเดือนเกิดนั่นเอง โดยเฉพาะถ้าในเดือนดังกล่าว อังคาร ๓ กำลังทับลัคนา

ดูดวง ทางโทรศัพท์ โหราศาสตร์ 10 ลัคนา ไพ่ยิปซี โ ห ร า ส า ด (ฉบับเรียนรู้โดยไม่ต้องถาม) โดย สอ้าน นาคเพชรพูล(สีดิน) บทที่ ๕ การนำเอาดวง ๘ ราศีจักรมาเพื่อพยากรณ์



บริการ ดูดวง ทางโทรศัพท์ โหราศาสตร์ 10 ลัคนา ไพ่ยิปซี โหราศาสตร์พม่า พร้อมให้คำปรึกษาทุกปัญหา ทุกเรื่องทุกข์ใจ เรื่องในอนาคตที่คุณ อยากรู้คำตอบ ก่อนตัดสินใจ ความรัก คู่ครอง เนื้อคู่ แต่งงาน อาชีพการงาน การเงิน ครอบครัว ลูกหลาน บริวาร โรคภัย เรื่องที่ต้องระวัง โชคลาภ ข้อดีข้อเสียในภาพรวมพื้นฐานดวงชาตา
ผมได้สรุปความสำคัญว่า การแบ่งโลกออกเป็น ๘ ส่วนมีความสำคัญในการพยากรณ์ บ้างแล้วในท้ายบทที่ผ่านมา
ในตอนนี้จะขอลงรายละเอียดเพิ่มเติมให้เห็นกันอย่างชัดเจนว่า การนำเอา ๘ ส่วนนี้มาใช้เป็นหลักพื้นฐานการพยากรณ์ บรรดาท่านโหราจารย์ท่านทำกันอย่างไร
ในเบื้องต้นของการแบ่งโลกออกเป็น ๘ ส่วน ท่านได้นำมาเขียนเสียใหม่โดยการลากเส้นตรงคู่ขนาน ๒ เส้น จากซ้ายไปขวาให้มีระยะห่างกันพอสมควร ที่จะลงดาวประจำตำแหน่งแต่ละส่วนได้ แล้วลากเส้นคู่ขนาดอีกคู่หนึ่งตัดกับเส้นคู่ขนาดเดิมเป็นมุมฉาก ความห่างของเส้นคู่ขนานเท่าเดิม ก็จะเกิดส่วนแบ่ง ๘ ส่วนขึ้น ๘ ส่วนนี้ ถ้านับทิศก็ได้  ๘  ทิศ

กำหนดเอาทางซ้ายมือเป็นทิศเหนือ ทางขวามือเป็นทิศใต้ ด้านบนสุดเป็นทิศตะวันออกตรง ล่างสุดเป็นทิศตะวันตก ที่เหลือนอกนั้นคือทิศเฉียง คือตะวันออกเฉียงเหนือ ตะวันออกเฉียงใต้ ตะวันตกเฉียงเหนือ ตะวันตกเฉียงใต้

ในทิศเฉียง พอนำมาใช้ในการพยากรณ์ ถูกกำหนดให้เป็นที่สถิตของดาวบาปเคราะห์หรือดาวที่ให้โทษครอบครองเป็นเจ้าของพื้นที่ เริ่มที่ทิศตะวันออกเฉียงเหนือเป็นดาวอาทิตย์ ๑ ตะวันออกเฉียงใต้
ดาวอังคาร ๓ ตะวันตกเฉียงใต้ ดาวเสาร์ ๗ ตะวันตกเฉียงเหนือ ราหู ๘  ทิศตรงคือตะวันออก เป็นดาวจันทร์ ๒ ทิศใต้คือดาวพุธ ๔ ตะวันตกตรงคือดาวพฤหัสบดี ๕ ทิศเหนือคือดาวศุกร์ ๖

เมื่อทุกพื้นที่มีดาวครอบครองเรียบร้อย ท่านบูรพาจารย์ก็เรียกเสียใหม่ว่า “ทักษา”  แต่ผมเรียกว่า “ดวงทักษา” เพราะดวงทักษานี้เป็นส่วนที่ใกล้ชิดมากกับดวง ๑๒ ราศีจักร เพียงลากเส้นตรงแบ่งกึ่งกลางของทิศเฉียงทั้ง ๔ ทิศ ออกไปทิศละเส้น ก็จะกลายเป็น ๑๒ ส่วนหรือ ๑๒ ราศีจักรทันที

ดูดวง ทางโทรศัพท์ โหราศาสตร์ 10 ลัคนา ไพ่ยิปซี โ ห ร า ส า ด (ฉบับเรียนรู้โดยไม่ต้องถาม) โดย สอ้าน นาคเพชรพูล (สีดิน) บทที่ ๔ ที่มาของดวง ๑๒ ราศีจักร




บริการ ดูดวง ทางโทรศัพท์ โหราศาสตร์ 10 ลัคนา ไพ่ยิปซี โหราศาสตร์พม่า พร้อมให้คำปรึกษาทุกปัญหา ทุกเรื่องทุกข์ใจ เรื่องในอนาคตที่คุณ อยากรู้คำตอบ ก่อนตัดสินใจ ความรัก คู่ครอง เนื้อคู่ แต่งงาน อาชีพการงาน การเงิน ครอบครัว ลูกหลาน บริวาร โรคภัย เรื่องที่ต้องระวัง โชคลาภ ข้อดีข้อเสียในภาพรวมพื้นฐานดวงชาตา


เรื่องนี้ ผมต้องขออภัยท่านผู้รู้อื่น เป็นต้นท่านโหราจารย์ผู้อาวุโส ที่อยู่ในระดับครูบาอาจารย์ หรือในหลายระดับ ที่ต่างก็มีความรู้ดีกว่าผม ที่จำเป็นต้องขออภัยเอาไว้  เพราะต่อไปนี้ หรือนับแต่นี้ไปผมอาจต้องเขียนอะไรที่ต้องขัดใจหรือสวนทางกับความคิดเห็นของท่านบ้าง ก็ขอให้ท่านโปรดอย่าได้ตำหนิกัน อภัยให้ผมด้วย โปรดระลึกว่าถึงอย่างไรผมก็ยังมีเจตนาดีต่อวิชาโหราสาดเหมือนเดิม

หากบางครั้งเกิดความคิดขึ้นมาว่า เรื่องของโหราสาด  มันน่าจะมีอะไรที่รวบรัดขึ้นจากเดิม โดยเฉพาะเรื่องการศึกษาค้นคว้าของคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการความรวดเร็วทันอกทันใจ สังเกตได้จากการที่โหราจารย์รุ่นเก่า ศึกษาค้นคว้ากว่าจะผูกดวงชะตาได้แต่ละคนต้องใช้เวลายาวนาน ต้องมานั่งตัดสมผุสดาวกันทีละดาว แล้วเดินอันโตนาทีกันไปทีละราศี ทีละนวางค์ ในขณะที่คนรุ่นใหม่แค่แตะนิ้วมือลงบนคีย์คอมฯ เพียง ๒-๓ ครั้ง ก็ได้ดวงชะตาออกมาได้ครบทุกอย่างยันดวงนวางค์จักร แล้วทั้งยังมีความเที่ยงตรงไม่ผิดเพี้ยน

อันว่าราศีจักรทั้ง ๑๒ หรือ ๑๒ ราศีจัก มันคือการแบ่งส่วนของโลกที่เราอาศัยอยู่ออกเป็น ๑๒ ช่องนั่นเอง ในแต่ละช่องมีจำนวนองศาเท่ากัน และเรียกขานแต่ละช่องกันไปตามเดือน ซึ่งมีอยู่ ๑๒ เดือนพอดีโดยเริ่มต้น

ราศีเมษ เป็นราศีที่ ๐  คือเอาเดือนเมษายนมาเรียกนั่นเอง ราศีนี้เป็นราศีชั้น ๑ ธาตุไฟ
ราศีพฤษภ เป็นราศีที่ ๑ อันนี้ก็ย่อมาจากเดือนพฤษภาคม เป็นราศีธาตุดิน ชั้น ๒
ราศีมิถุน เป็นราศีที่ ๒ เป็นชื่อย่อของเดือนมิถุนายน แต่ผมเรียกเมถุนจนชินปาก เป็นราศีธาตุลมชั้น ๓
ราศีกรกฎ เป็นราศีที่ ๓ เป็นชื่อย่อของเดือนกรกฎาคม เป็นราศีธาตุน้ำชั้น ๑
ราศีสิงห์ เป็นราศีที่ ๔ ชื่อย่อมาจากเดือนสิงหาคม เป็นราศีธาตุไฟชั้น ๒
ราศีกันย์ เป็นราศีที่ ๕ ชื่อย่อของเดือนกันยายน เป็นราศีธาตุดินชั้น ๓
ราศีตุลย์ เป็นราศีที่ ๖ มาจากชื่อย่อของเดือนตุลาคม เป็นราศีธาตุลมชั้น ๑
ราศีพิจิก เป็นราศีที่ ๗ ชื่อย่อของเดือนพฤศจิกายน เป็นราศีธาตุน้ำชั้น ๒
ราศีธนู เป็นราศีที่ ๘ ชื่อราศีมาจากเดือนธันวาคม เป็นราศีธาตุไฟชั้น ๓
ราศีมังกร เป็นราศีที่ ๙ ชื่อราศีมาจากเดือนมกราคม เป็นราศีธาตุดินชั้น ๑
ราศีกุมภ์ เป็นราศีที่ ๑๐ ชื่อราศีมาจากเดือนกุมภาพันธ์ เป็นราศีธาตุลมชั้น ๒
ราศีมีน เป็นราศีที่ ๑๑ ชื่อราศีมาจากเดือนมีนาคม เป็นราศีธาตุน้ำชั้น ๓

รวมกันทั้งหมดมี ๑๒ ราศี ๔ ธาตุ คือเมื่อนับวนทวนเข็มนาฬิกาว่า ไฟ ดิน ลม น้ำ นับแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนครบ ๑๒ ราศีแล้วจะพบว่าธาตุหนึ่ง ๆ จะมี ๓ ราศีนั่นเอง ผมขอเตือนว่าตรงนี้ก็สำคัญนะครับต้องจำให้ขึ้นใจจนเห็นภาพลอยขึ้นมากลางอากาศทุกครั้งที่นึกถึงจึงจะเรียกว่าเข้าสายเลือด

จะอย่างไรก็ตามแม้จะข้ามมาถึงเรื่องของ ๑๒ ราศีจักร แล้จะละทิ้งส่วนสำคัญบางส่วนไปก็น่าเสียดายอย่างยิ่ง ดังนั้นผมจึงขอแทรกสิ่งที่ว่าเอาไว้ตรงนี้  ให้ท่านผู้อ่านอันเป็นที่รัก  ลองพิจารณาดูเอาเองว่าจริงอย่างที่ผมว่าเอาไว้หรือไม่  นั่นคือการแบ่งโลกออกเป็นส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวโยงกับวิชาโหราสาด

เป็นที่รู้กันว่าโลกที่เราอาศัยอยู่มันก็เป็นดาวดวงหนึ่ง มองจากด้านใดก็ตามจะเป็นรูปทรงกลม เหมือนกับที่เรามองผลส้มโอ หรืออะไรที่คล้ายกัน ถ้าด้านที่เรามองเห็นเป็นด้านที่ได้รับแสงสว่าง อีกด้านหนึ่งก็จะมืด หากหมุนด้านมืดมาหาแสงสว่างบ้าง ด้านที่เคยสว่างจะกลายเป็นความมืดมาแทน ด้านมืดก็จะกลับสว่าง


เมื่อเป็นดังนี้โลกเราในเบื้องต้นจะถูกธรรมชาติแบ่งออกเป็น ๒ ส่วน คือความมืดส่วนหนึ่ง สว่างส่วนหนึ่งเราเรียก ๒ ส่วนดังกล่าวว่ากลางวัน-กลางคืน  ถ้าเราต่างรับรู้และยอมรับว่ามันเป็นเรื่องจริงไม่อิงนิยาย ผมว่ามันไม่ใช่เรื่องลุ่มหลงมัวเมาอะไรเลย เป็นธรรมชาติของมันอย่างนั้น เราสามารถนำเอา ๒ ส่วนนี้มาทายหรือพยากรณ์ได้อย่างแม่นยำ เพราะ ๒ ส่วนนี้ถูกควบคุมให้มืดหรือสว่างโดยพระอาทิตย์ พระอาทิตย์มีอิทธิพลต่อ ๒ ส่วนนี้มากหาประมาณมิได้ ขาดพระอาทิตย์เพียงดวงเดียว สิ่งที่มีชีวิตทั้งหลายจะมีได้อย่างไร?  พืชผักผลไม้จะเจริญเติบโตออกดอกออกผลมาให้เราได้ใช้บริโภคเพื่อสร้างพลังงานกันได้ละหรือ?

และการจะนำเอา ๒ ส่วนนี้มาใช้ประโยชน์ในการทายหรือพยากรณ์ก็ไม่เป็นการยากเย็น เป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่าในส่วนที่เป็นกลางวันนั้นสิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่ ทั้งคน สัตว์ต่างต้องดิ้นรนทำมาหากิน ดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด จะมีสิ่งเหล่านี้น้อยนิดที่ต้องไปดิ้นรนขวนขวายกันในภาคของกลางคืน ในภาคกลางคืนส่วนใหญ่เป็นภาคของการพักผ่อนหลับนอนเพราะ ความเหนื่อยล้า ออมแรงเอาไว้ในรอบใหม่ สลับกันไป แม้พืชผักไม้ต้นไม้ดอกหลายอย่างก็ต้องการพักผ่อนหลับนอน ท่านผู้อ่านที่รักลองจินตนาการดูจะเห็นชัดกว่าที่ผมพูดนำมาพอสังเขปนี้ เป็นเรื่องจริงหรือไม่จริง

โลกเราเมื่อแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือกลางวันกลางคืน ถ้าจะแบ่งออกไปอีกเพื่อต้องการรายละเอียดมากขึ้นโดยลากเส้นตรงอีกเส้นตัดกลางเป็นมุมฉากกับเส้นที่แบ่งโลกออกเป็นกลางวันกลางคืน ก็จะได้กลางวัน 2 ส่วน กลางคืน 2 ส่วน คิดแล้วก็เป็นส่วนกลางวันส่วนละ 6 ชั่วโมง กลางคืน 6 ชั่วโมงเท่ากัน นั่นหมายถึงว่ากลางวันจากพระอาทิตย์ขึ้น 06.00-12.00 น.ช่วงหนึ่งและอีกช่วงหนึ่ง 12.00-18.00 น. ภาคกลางคืนก็จะเป็น 18.00-24.00 น. ช่วงหนึ่งและอีกช่วงหนึ่งคือ 24.00-06.00 น.

ในช่วงเวลาดังกล่าวมาเราก็สามารถพยากรณ์ได้เช่นกันว่าในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ ผู้คนส่วนมากทำอะไร พักผ่อนหลับนอนหรือทำมาหากิน และช่วงไหนมากน้อยแตกต่างกันอย่างไร  แต่มนุษย์เราย่อมต้องอยากรู้อยากเห็นอะไรใหม่ ๆ เกิดขึ้นอยู่เสมอ จึงได้ซอยส่วนแบ่งลงไปอีกให้เป็น 8 ส่วน ๆ ละ 45 องศา เป็นกลางวันและกลางคืนอย่างละ 4 ส่วน และการแบ่งก็ใช้หลักลากเส้นตรงตัดจุดตัดเดิมให้ได้มุม 45 องศา 2 เส้น และ 2 เส้นใหม่นี้ก็จะตัดกันเองที่มุม 90 องศาเหมือนคู่แรก  ตรงนี้หากท่านต้องการให้ง่ายขึ้นก็ขอได้โปรดเขียนรูปประกอบไปด้วยจะเป็นการช่วยประหยัดสมองเอาไว้คิดอย่างอื่นก็จะดีมาก

8 ส่วนนี้แหละเป็น 8 ส่วนที่สำคัญยิ่งในวิชาโหราสาด โดยเฉพาะในภาคการพยากรณ์  ขอให้ท่านทำความเข้าใจกับการแบ่งโลกที่เริ่มต้นมาจากการแบ่งออกเป็น ๒ ส่วนคือกลางวัน กลางคืน แบ่งออกเป็น ๔ ส่วน คือกลางวัน ๒ ส่วน กลางคือ ๒ ส่วน และก็มาถึงการแบ่งออกเป็น ๘ ส่วนเท่า ๆ กัน ซึ่งก็หมายถึงว่ากลางวันมี ๔ ส่วน และกลางคืนมี ๔ ส่วน ส่วนหนึ่งก็จะมีเพียง ๔๕ องศา

บรรดาท่านเกจิโหราจารย์จึงได้นำ ๘ ส่วนนี้มาใช้ในการพยากรณ์แม่นยำขึ้นกว่าเดิม โดยกำหนดรายละเอียดเพิ่มเติม ให้เส้นตรงคู่แรกที่ตั้งฉากทำมุม ๙๐ องศา ด้านบนสุดเป็นทิศตะวันออก ด้านล่างเป็นทิศตะวันตก ส่วนเส้นนอนขวามือเป็นทิศใต้ ซ้ายมือเป็นทิศเหนือ เส้นตัดคู่ที่ ๒ อีกคู่หนึ่งถูกกำหนดเป็นทิศเฉียง คือตะวันออกเฉียงเหนือ ตะวันตกเฉียงเหนือ ตะวันออกเฉียงใต้ ตะวันตกเฉียงใต้

และกำหนดเอาพระอาทิตย์หรือดาวอาทิตย์หมายเลข ๑ ครองทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ดาวเสาร์หมายเลข ๗ ประจำทิศตะวันตกเฉียงใต้ ๒ ทิศนี้เป็นพื้นที่ของดาวธาตุไฟ ส่วนทิศตะวันออกเฉียงใต้ให้พระอังคารหรือดาวอังคารหมายเลข ๓ ครอบครอง ด้านตรงกันข้ามคือทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ให้ราหูหมายเลข ๘ ครอบครอง สองทิศดังกล่าวเป็นเรื่องของดาวธาตุลมครอบครอง ดาวที่ประจำอยู่ทั้ง ๔ ทิศนี้ล้วนเป็นดาวที่ให้โทษหรือที่เราเรียกกันว่าดาวบาปเคราะห์นั่นเอง  การจะให้โทษมากน้อยแค่ไหนท่านโหราจารย์ได้กำหนดกำลังของแต่ละดาวเอาไว้ว่า อาทิตย์ (๑) ให้มีกำลัง ๖ อังคาร (๓) กำลัง ๘ เสาร์ (๗) กำลัง ๑๐ และราหู (๘) กำลัง ๑๒  เพื่อให้ท่านจำง่ายเข้าสมองเร็วขอให้ท่านสังเกตุดูกำลังของดาวจะเพิ่มขึ้นมาทีละ ๒ เสมอ คือเริ่มมาจากอาทิตย์ (๑)

ส่วนที่เป็นทิศตรงคือทิศตะวันออก พระจันทร์หรือดาวจันทร์ หมายเลข ๒ ครอบครอง ทิศตะวันตกดาวพฤหัสบดี หมายเลข ๕ ครอบครอง นี่ก็เป็นดาวธาตุเดียวกันคือธาตุดิน และเป็นดาวในกลุ่มที่ให้คุณเรียกว่าเป็นดาวศุภเคราะห์ ด้านที่เป็นทิศใต้ตรงขวามือ ดาวพุธหมายเลข ๔ ครอบครอง ด้านที่เป็นทิศเหนือซ้ายมือ ดาวศุกร์หมายเลข ๖ สองดาวนี้เป็นดาวธาตุน้ำเหมือนกัน และเป็นดาวที่ให้คุณเช่นกัน หรือที่เรียกว่าดาวศุภเคราะห์ ส่วนกำลังของแต่ละดาวเริ่มที่ดาวจันทร์ (๒) มีกำลัง ๑๕ ดาวพุธ (๔) มีกำลัง ๑๗ ดาวพฤหัสบดี (๕) มีกำลัง ๑๙ ดาวศุกร์ (๖) มีกำลัง ๒๑ วิธีจำง่าย ๆ เริ่มต้นที่ดาวจันทร์ จะมีกำลังเพิ่มขึ้นทีละ ๒ เช่นกัน

ที่ผมบอกท่านอย่างนี้เป็นการบอกที่ง่ายที่สุด ซึ่งรับรองว่าพอท่านอ่านจบก็จะสามารถจำได้ในทันทีว่าดาวใดเป็นดาวศุภเคราะห์ ดาวใดเป็นดาวบาปเคราะห์ ดาวใดมีกำลังประจำตัวเท่าใด และอีกมุมหนึ่งท่านจะเห็นได้ว่าดาวทั้งบาปเคราะห์และศุภเคราะห์ต่างก็สลับเรือนคุมเชิงกันอยู่ เปรียบเหมือนดำกับขาว ธรรมะกับอธรรม หยินกับหยาง

และตรงนี้ท่านก็จะได้ดาวอาทิตย์ (๑) กับศุกร์ (๖) ดาวจันทร์ (๒) กับราหู (๘) อังคาร (๓) กับพฤหัสบดี (๕) พุธ (๔) และ เสาร์ (๗) ต่างก็เป็นดาวที่ทางโหราสาดเรียกว่าคู่สมพลอีกอย่างหนึ่ง ถ้าอยากจะให้เห็นได้โดยง่าย  ให้ท่านลากเส้นเฉียงเป็นคู่ ๆ ก็จะเห็นได้ชัดขึ้น

ขอย้ำว่าการเรียนโหราสาด ถ้าต้องการให้จำง่าย เข้าใจง่ายต้องหัดเขียนรูปประกอบด้วยตนเอง  ขณะที่ผมเขียนต้นฉบับนี้ผมเขียนด้วย Microsorf Word  เมื่อเขียนเสร็จ ตรวจทานแก้ไขเห็นว่ามีคำผิดหรือข้อความที่ไม่เหมาะสมมีน้อย จึงส่งเข้า Web เพื่อให้ท่านได้ศึกษากัน การจะต้องมานั่งเขียนรูป ประกอบจึงทำให้ไม่สดวกนัก

ก่อนจะผ่านไปถึงเรื่องอื่นผมขอสรุปเอาไว้ตรงนี้อีกครั้งว่า การแบ่งส่วนของโลกออกเป็น 2 ส่วนเท่า ๆ กัน คือกลางวันและกลางคืน
แบ่งออกเป็น 4 ส่วน เป็นกลางคืน 2 ส่วน กลางวัน 2 ส่วน
แบ่งออกเป็น 8 ส่วน เป็นกลางคืน 4 ส่วน กลางวัน 4 ส่วน และ 8 ส่วนนี้ผมก็ได้กล่าวไว้แล้วว่ามีส่วนสำคัญมากในการพยากรณ์ เพราะท่านโหราจารย์ท่านได้กำหนดดาวครอง กำหนดทิศ นอกจากนั้นยังได้กำหนดอักษรต่าง ๆ เอาไว้อย่างชัดเจนอีกด้วย ที่ท่านกำหนดไว้ก็เพื่อให้เป็นพื้นฐานขั้นต้น สำหรับการจะทายหรือพยากรณ์ ในความคิดอ่านของผม เห็นว่าทุกคนควรจะผ่านการเรียนรู้และพยากรณ์ใน 8 ส่วนนี้จนเชี่ยวชาญ  ก่อนจะก้าวไปถึงการพยากรณ์ 12 ราศีจักร ดวงตรียางค์จักร นวางค์จักร หรือแม้กระทั่งดวงทวาทศำศจักร

ดูดวง ทางโทรศัพท์ โหราศาสตร์ 10 ลัคนา ไพ่ยิปซี โ ห ร า ส า ด (ฉบับเรียนรู้โดยไม่ต้องถาม) โดย สอ้าน นาคเพชรพูล (สีดิน) บทที่ ๓ ดวงดาวและเลขหมายแทนดาว




บริการ ดูดวง ทางโทรศัพท์ โหราศาสตร์ 10 ลัคนา ไพ่ยิปซี โหราศาสตร์พม่า พร้อมให้คำปรึกษาทุกปัญหา ทุกเรื่องทุกข์ใจ เรื่องในอนาคตที่คุณ อยากรู้คำตอบ ก่อนตัดสินใจ ความรัก คู่ครอง เนื้อคู่ แต่งงาน อาชีพการงาน การเงิน ครอบครัว ลูกหลาน บริวาร โรคภัย เรื่องที่ต้องระวัง โชคลาภ ข้อดีข้อเสียในภาพรวมพื้นฐานดวงชาตา
http://www.10luc.com

ถ้าผมจะพูดกันถึงดวงดาวที่นำมาใช้กับการพยากรณ์  ผมก็จะหมายถึงดาวจำนวนหนึ่งที่ไม่มากนัก  เพียง 10 ดาวหรือ 10 ดวงเท่านั้น  และแน่ใจว่าพอผมพูดจบหรือเขียนจบท่านที่รักจะต้องจำได้ทันที ดาวดวงแรกที่สำคัญที่สุดในกระบวนการของโหราสาดคือ
1.       พระอาทิตย์ ดาวดวงนี้เขาใช้เลข (๑) แทน ตามหลักทางดาราศาสตร์กล่าวกันว่าเป็นดาวที่มีแสงสว่างในตนเอง เมื่อมีแสงสว่างความร้อนก็มีด้วย ไม่เชื่อท่านลองออกไปยืนตากแดดดูสักพักก็จะหายสงสัย คงเพราะร้อนนี่เองจึงจัดให้เป็นดาวธาตุไฟ ตามหลักเขาถือกันว่าถ้าจะทายเรื่องชื่อเสียงหรือยศศักดิ์ ตำแหน่งหน้าที่การงาน การเดินทาง การโยกย้ายตำแหน่งงาน  ให้เอาอาทิตย์มาทาย  นี่ว่ากันเฉพาะเบื้องต้นเท่านั้น ยังไม่นับการเป็นเจ้าเรือนในดวงชะตา 12 ราศีจักร และเจ้าเรือนทักษา หรือเข้าไปเกี่ยวข้องกับดาวอื่น ๆ ในกรณีพิเศษ  ทั้งยังจัดให้เป็นดาวอยู่ในประเภทให้โทษ
2.       ดาวจันทร์  ใช้เลข  (๒) แทน ดาวดวงนี้ไม่มีแสงสว่างในตัวเอง  และเป็นดาวที่อยู่ใกล้โลกเรามากที่สุด ถ้าเป็นข้างแรมดูด้วยตาจะไม่ค่อยสดใสมากนัก  หรือบางคืนก็มองไม่เห็นเลย แต่ข้างขึ้นแก่ ๆ กลับสดใสงดงามเป็นพิเศษ ดาวจันทร์หรือดวงจันทร์แม้จะมีอำนาจดึงดูดน้ำ สามารถทำให้น้ำขึ้นน้ำลงได้ แต่ทางโหราสาดจัดเข้าไปอยู่ในประเภทธาตุดิน คงเพราะเห็นว่าดาวจันทร์เวลาที่มันปรากฏตัวให้เราเห็นบนท้องฟ้าสวยสดงดงาม จึงนำมาทำนายทายทักถึงความมีเสน่ห์ ความงาม ความเรรวนปรวนแปรง่าย เพราะสภาพของจันทร์เปลี่ยนรูปไปทุกวัน ดาวจันทร์ถูกแยกประเภทไว้ในทางดี คือเป็นดาวศุภเคราะห์ จะเห็นได้ชัดว่าวันใดที่เข้ามาเล็งลัคน์หรือทับลัคน์ย่อมจะทำให้ผู้นั้นมีโชค ไม่อาหารการกินก็การเงิน ยิ่งมีดาวศุกร์เข้ามาทำมุมดีด้วยยิ่งมีลาภมาก
3.       ดาวอังคาร  ใช้เลข (๓) แทน เป็นดาวที่อยู่ไกลโลกเราออกไปหน่อยหนึ่ง ส่วนจะไกลออกไปสักเท่าไรต้องไปหารายละเอียดจากวิชาการดาราศาสตร์ซึ่งมีอยู่มากมาย ผมเคยเห็นภาพถ่ายจากดาวเทียมมาบ้างจากหน้าหนังสือพิมพ์ ดูก็สวยสดดีแต่สีออกจะเข้มไปหน่อย ไม่ค่อยสบายอารมย์สักเท่าไร สู้มองภาพของดาวจันทร์ไม่ได้ ดาวอังคารหรือดาวหมายเลข (๓) นี้ถูกจัดไว้ในประเภทธาตุลม และเป็นดาวบาปเคราะห์ หน้าที่หลักคือให้โทษ บางคราวก็ทำเอาหัวร้างข้างแตก เล่นกันถึงตายหรือเลือดตกยางออกก็มี แต่ในพื้นดวงถ้าได้ตำแหน่งหรืออยู่ในมุมที่ดีคือความเอาจริงเอาจัง กล้าได้กล้าเสียแบบนักเลง ขยันขันแข็งต่อการงาน ทำอะไรมุมานะจนบางคราวก็ทำให้ตัวเองลำบาก อยู่ไม่ค่อยเป็นสุขสักเท่าไร แต่ถ้าเป็นดาวจรมาไม่น่าไว้ใจ
4.       ดาวพุธ  ใช้เลข (๔) แทน ดาวดวงนี้อยู่ไม่ไกลจากโลกมากนัก ตามหลักถือกันว่าเป็นดาวให้คุณหรือดาวศุภเคราะห์ การจำแนกธาตุของดาว ดาวพุธอยู่ในฝ่ายธาตุน้ำ และก็เป็นดาวบริวารของอาทิตย์เช่นเดียวกับดาวอื่น ๆ ที่กล่าวมาแล้ว เพราะต่างก็ไม่มีแสงสว่างเป็นของตัวเองตัวเอง ตามหลักโหราสาดหมายถึงการพูด การติดต่อ การสื่อสาร พูดดีพูดร้ายอยู่ที่ดาวพุธดวงนี้ คือถ้าอยู่กับดาวดีหรือได้ตำแหน่งดีและทำมุมดีกับลัคนาของใครก็ตาม คนนั้นจะมีโชคหรือพรสวรรค์ในการพูด ๆ เป็นเงินเป็นทอง แม้พูดโกหกก็มีคนเชื่อ  แต่ถ้าลงเสียเมื่อไรจะพูดตรงกันข้ามทีเดียว คือพูดเก่งเหมือนกัน แต่จะกลายเป็นกะล่อนไปวัน ๆ พูดตรง และบางคราวก็ขวางหูคนฟัง

5.       ดาวพฤหัสบดี  ใช้เลข (๕) แทน ดาวดวงนี้แม้จะไกลจากโลกแต่ก็เป็นดาวที่มีขนาดใหญ่ สามารถส่งพลังความดีความมีโชคมาถึงโลกเราได้ดี จนต้องยอมรับกันว่าเป็นเทพเจ้าแห่งการมีโชคลาภ เป็นดาวธาตุดินที่หนักแน่น ลงให้คุณใครแล้วจะให้เต็มที่ และต่อเนื่องกันหลายปี ในจำนวนการโคจรรอบโลก 12 ปี จะให้โทษเพียง 3 ปีเท่านั้น แต่นั่นก็หมายถึงว่าต้องโคจรอย่างปกติ ถ้าวิปริตเมื่อใดจะให้โทษแรงจนยากที่จะต้านทานไหวเหมือนกัน หลักของดาวพฤหัสบดีนอกจากเป็นเทพเจ้าแห่งการมีโชคลาภหลายอย่างแล้ว ยังเป็นดาวที่บ่งบอกถึงความสามารถในการศึกษาวิชาการ และความมีคุณธรรม ความเที่ยงตรง ไม่เอาเปรียบใครแม้จะมีช่องทางเปิดอ้ารออยู่ แทบทุกคนที่มีดาวดวงนี้ให้คุณ  ย่อมเป็นคนที่ได้รับการศึกษาดี มีความรับผิดชอบดี สามารถประสบความสำเร็จด้านการงานสูง
6.       ดาวศุกร์ ใช้เลข (๖) แทน ดาวดวงนี้กล่าวยกย่องกันว่าเป็นดาวกามกิเลสกำดัด เป็นดาวที่ให้คุณอย่างกว้างขวางครอบจักรวาฬ ความหมายของคำว่ากามกิเลสกำดัดหมายถึงการมัวเมาในรูปรส กลิ่นเสียงและสัมผัสอันนุ่มนวล รูปไม่สวย ไม่ชอบ รสไม่ถูกปากถูกลิ้นไม่นิยม กลิ่นเน่าเหม็นไม่ชอบ ชอบแต่กลิ่นหอมหวานซ่านใจ สัมผัสทางกายเนื้อต้องนุ่มนวล ถ้าหยาบกระด้างไม่ปรารถนานอกจากที่กล่าวมายังหมายถึงเงินด้วย ดาวดวงนี้ของใครถ้าดีเงินทองต้องดี  เมื่อเงินดีต้องการดาวเดือนก็ย่อมได้  ดาวศุกร์ย่อมเป็นธาตุน้ำคู่กับดาวพุธ ตำแหน่งที่อยู่ก็ไม่ไกลจากโลกที่เราอาศัยอยู่มากนัก บางวันสามารถมองเห็นได้ชัดเจน ถ้าช่วงไหนที่จรมาเข้ามุมดีกับลัคนา หมายถึงในช่วงนั้นเงินหมุนเวียนสะพัดคล่อง ความรักจะสดใส และความรักความใคร่จะหดหู่ทันทีที่ขาดเงินยามที่ดาวดวงนี้โคจรสับสน
7.       ดาวเสาร์ ใช้เลข (๗) แทน ดาวดวงนี้เป็นดาวธาตุไฟ อยู่ไกลออกไปจากโลก แต่ก็จัดว่าเป็นดาวดวงใหญ่ดวงหนึ่ง  สามารถแผ่อิทธิพลความทุกข์ยากมายังมวลมนุษย์ที่อยู่บนพื้นผิวของโลกได้ เป็นดาวประเภทบาปเคราะห์ คือให้โทษทุกข์และอุปสรรคเป็นหลัก แต่การให้โทษไม่โครมครามเหมือนดาวอื่น  ค่อยเป็นค่อยไปคือทวีความทุกข์ยากเข้ามาทีละน้อย ๆ เหมือนนายพรานล่าเหยื่อต้อนเหยื่อให้เข้ามุมอับก่อนแล้วค่อยเผด็จศึกทีหลัง บางคราวโทษอันเกิดจากดาวเสาร์ดูยังไม่น่าจะหนักหนา แต่พอดาวบาปเคราะห์อื่นเข้าร่วมวง เรื่องเล็กก็กลายเป็นเรื่องใหญ่อย่างคิดไม่ถึง ดังนั้นจึงควรต้องระวังอย่างมาก โดยเฉพาะคนใจร้อนอาจเป็นฟืนเป็นไฟได้ง่าย  บางรายเครียดจัดจนไม่อาจคุมสติได้ ต้องเข้าโรงพยาบาลบ้าไปก็มี ถ้าในดวงชะตาใดมีดาวดวงนี้กุมลัคน์หรือเล็งลัคน์จะแรงมาก ถือกันว่าเป็นคนดวงแตกดวงร้าวหรือที่เรียกกันตามภาษาโหรว่าเป็นดวงพินธุบาทหมายถึงเอาดีไม่ได้ ต้องล้มลุกคลุกคลานไปตลอดชีวิต นอกจากเข้ากฏข้อห้ามเท่านั้นจึงพอทุเลาไปได้
8.       ราหู ใช้เลข (๘) แทน เรื่องของราหู ในวงการโหรหรือนักโหราสาดบอกว่าไม่ใช่ดาว เป็นเพียงเงามืด แต่ก็อุตส่าห์จัดแยกออกเป็นดาวธาตุลม เพื่อให้เข้าคู่กับอังคาร (๓) จะอย่างไรก็ตามแม้ไม่เป็นดาวเหมือนดาวอื่น ๆ แต่ราหูก็จัดอยู่ในประเภทให้โทษในด้านมัวเมา ลุ่มหลง พอใจเรื่องอบายมุขทั่วไป เช่นชื่นชอบสุรานารีพาชีกีฬาวิบัติทุกชนิด หวยบนดินหวยใต้ดิน แทงบอลล์ นอกจากนั้นเวลาจรมาแต่ละเที่ยวทำเอาหลายคนต้องห่อเหี่ยวใจ แต่ในความดีก็พอมีบ้าง คือถ้าอยู่กับดาวพฤหัสบดีก็มัวเมาไปในทางดี คือชอบในเรื่องของการศึกษาค้นคว้าวิชาการชนิดทุ่มเทสุดหัวใจ เป็นคนรักจริงเกลียดจริง ชอบทำกิจการเกี่ยวกับต่างประเทศ ภาษาต่างประเทศดี  หญิงบางคนชื่นชอบสามีที่เป็นชาวต่างประเทศ เพราะเมื่อจดทะเบียนเป็นทางการแล้ว พอหย่าเธอมักจะได้ลาภทรัพย์สินเงินทองไปตั้งตัวได้บ้างตามควรแก่ฐานะ ต่างจากมีสามีชาติเดียวกันที่บางรายเอากันถึงตาย
9.       เกตุ ใช้เลข (๙) แทน นี่ก็ถือว่าไม่ใช่ดาวเหมือนกัน แต่ก็มีอิทธิพลต่อชีวิตให้เป็นคนเฉลียวฉลาด มีความรู้สึกทางจิตดี สามารถเอาตัวรอดได้ในยามคับขัน บางคนฝันแม่น ที่เขาเรียกว่ามีญาณพิเศษนั่นแหละ เกตุกล่าวกันว่าเป็นวิญญาณธาตุ โหรบางคนบอกว่าเป็นหัว-หางกับราหู สำหรับนักดาราศาสตร์ก็ว่าไปอีกอย่างหนึ่ง ในบางรายหรือหลายรายแสดงถึงการผิดธรรมชาติ  หรือเป็น ๒ ก็มี เช่นธรรมชาติมีการคลอดบุตรเพียงคนเดียวต่อครั้ง แต่พอมีเกตุเข้ามาเกี่ยวข้องกลับมีลูกแฝด บางคนก็มีสามีแฝดโดยไม่ตั้งใจ  คือคนเก่ายังไม่ทันเลิกขาด ก็ไปพบคนใหม่อีกคน ใครที่จะเรียนโหราสาดเก่งจึงต้องเกี่ยวกับเกตุด้วย บางรายเกตุก็อยู่กับดาวพฤหัสบดี เกตุถ้าอยู่กับดาวดีก็ให้คุณ อยู่กับดาวร้ายจะให้โทษ
10.   มฤตยู ใช้เลข (๐) แทน นี่ก็ไม่ระบุชัดว่าเป็นดาวหรือไม่ใช่ดาว แต่ก็ให้โทษรุนแรงด้านการทำลายล้าง สามารถเล่นงานคนถึงตายได้ อยู่ในเรือนไหนทำลายเรือนนั้น อยู่กับดาวอะไรก็ทำลายดาวนั้น ดูไปแล้วก็เหมือนเป็นตัวนำความตายไปให้ใครต่อใครดี ๆ นี่เอง ดังนั้นใครก็ตามหากดาวมฤตยูอยู่ในเรือนการเงินแล้วละก้อควรต้องเก็บเงินซ่อนให้มิดชิด มิฉะนั้นจะไม่เหลือให้เก็บ มฤตยูเป็นดาวที่ไม่มีบ้านไม่มีเรือนเป็นของตนเอง ไม่ว่าในดวงทักษาหรือในดวงราศีจักรซึ่งก็เหมือนกับเกตุ แต่ก็เป็นธาตุเดียวกัน ถ้าร่วมราศีกันก็จะดีด้านสิ่งลี้ลับมหัศจรรย์
เรื่องของดวงดาวทั้งหลาย ที่ผมนำมาแจกแจงให้ท่านผู้อ่านที่รัก ได้อ่านกันมาจนครบ ๑๐ ดวงนี้ ท่านต้องจำได้บ้าง อย่างน้อยก็ต้องรู้ว่าดาวอะไรแทนด้วยเลขอะไร เป็นธาตุอะไร และดาวอะไรให้คุณ ดาวอะไรให้โทษ ส่วนนิสัยหรือเอกลักษณ์ประจำตัวของแต่ละดาว เอาไว้ค่อยเป็นค่อยไป ไม่ต้องไปนั่งท่อง แค่เปิดอ่านบ่อย ๆ ก็น่าจะจำได้ ถ้าอยากจะจำได้เร็วก็ควรจะแสดงความคารวะด้วยดอกไม้ธูปเทียนแก่ท่านบูรพาจารย์โหรที่ท่านล่วงลับไปแล้วก่อนที่จะเปิดอ่าน ก็จะเป็นการดียิ่ง

ดูดวง ทางโทรศัพท์ โหราศาสตร์ 10 ลัคนา ไพ่ยิปซี โ ห ร า ส า ด (ฉบับเรียนรู้โดยไม่ต้องถาม) โดย สอ้าน นาคเพชรพูล(สีดิน) บทที่ ๒ พื้นฐาน


บริการ ดูดวง ทางโทรศัพท์ โหราศาสตร์ 10 ลัคนา ไพ่ยิปซี โหราศาสตร์พม่า พร้อมให้คำปรึกษาทุกปัญหา ทุกเรื่องทุกข์ใจ เรื่องในอนาคตที่คุณ อยากรู้คำตอบ ก่อนตัดสินใจ ความรัก คู่ครอง เนื้อคู่ แต่งงาน อาชีพการงาน การเงิน ครอบครัว ลูกหลาน บริวาร โรคภัย เรื่องที่ต้องระวัง โชคลาภ ข้อดีข้อเสียในภาพรวมพื้นฐานดวงชาตา     http://www.10luc.com

พอผมตบท้ายไว้ว่าจะลดความสงสัยของท่านให้เหลือน้อยที่สุด  ท่านก็เริ่มสงสัยเพิ่มขึ้นมาใช่ไหมล่ะ? ว่าผมจะเขียนกันยังไง  ในขณะที่ทั้งบ้านทั้งเมืองเมื่อพอจับเรียนโหราศาสตร์ไทยแล้ว  เริ่มสงสัยกันตั้งแต่หน้าแรก เพราะพอกางตำราโหราสาดขึ้นมาดู มันไม่เหมือนกันสักราย เอาเถอะนั่นมันเป็นเรื่องของบรรดาท่านโหราจารย์ที่โด่งดังทั้งหลาย จะเอาผมเข้าไปเทียบประเดี๋ยวผมจะลงนรก เปล่า ๆ

เรามาว่ากันเรื่องของเราดีกว่า เบื้องต้นของการเรียน ก่อนจะเข้าไปถึงระหัสของดวงดาวและการแบ่งส่วนของโลก ท่านต้องจำคำต่าง ๆ เหล่านี้ให้ดี เช่น
v    กุมลัคน์หรือกุมลัคนา หมายถึงเมื่อเราหาลัคนาได้แล้วว่าอยู่ในราศีใด มีดาวอะไรบ้างอยู่ในราศีเดียวกันนั้น เขาเรียกกันว่ากุมลัคน์ ตัวอย่างเช่นคนราศีเมษ ก็ย่อมต้องมีดาวอาทิตย์อยู่ในราศีเมษด้วย ถ้าในแบบ ๑๐ ลัคน์  เขาอ่านว่าเจ้าชะตาคนนั้น มีลัคนาสถิตราศีเมษ มีดาวอาทิตย์ (๑) กุมลัคน์ ถ้ามีดาวจันทร์ (๒) อยู่ด้วย ก็เรียกว่าจันทร์กุมลัคน์  ถ้ามีดาวอังคาร (๓) อยู่ตรงนั้นด้วยก็เรียกว่าอังคารกุมลัคน์
v    ทีนี้ถ้านับจากราศีเมษ ๑ ไปทางซ้ายมือทวนเข็มนาฬิกาไปที่ราศีที่ ๒(จาก ๑๒.๐๐ – ๑๑.๐๐- ๑๐.๐๐ น.) แล้วตรงนั้นมีดาวอีก จะเป็นดาวอะไรก็ตาม เขาเรียกว่าดาว….เป็นสองแก่ลัคน์หรือนำหน้าลัคน์ หรือถ้าเป็นดวงชะตาเรียบร้อยแล้ว มีคนยื่นมาให้ดู เขาเรียกว่าดาว….ในเรือนกะดุมพะ (คนละอย่างกับดาวเจ้าเรือนกะดุมพะ) กรุณาอย่าสับสน
v    ถ้านับจากราศีเมษไปทางเดียวกันอีกนั่นแหละ  คือทวนเข็มนาฬิกาไปถึงราศีที่ ๓ พบดาวอะไรอยู่ตรงนั้น ก็ดาวนั้นเป็นสามแก่ลัคน์ หรือโยกหน้าลัคน์ หรืออยู่ในเรือนสหัชชะ (คนละอย่างกับดาวเจ้าเรือนสหัชชะนะครับ)
v    ทีนี้ถ้านับจากราศีเมษต่อไปอีกเป็น ๔ พบดาวอะไรอยู่ตรงนั้น ก็ดาวนั้นแหละเป็นสี่แก่ลัคน์ หรือจัตุเกณฑ์ หรือเรียกว่าสถิตอยู่ในเรือนพันธุ (ไม่ใช่ดาวเจ้าเรือนพันธุ)
v    ถ้านับจากราศีเมษไปถึงราศีที่ ๕ พบดาวอะไรอยู่ตรงนั้น เท่ากับดาวนั้นเป็นห้าแก่ลัคน์ หรือตรีโกณแก่ลัคน์ หรืออยู่ในเรือนปุตตะของลัคน์ (ไม่ใช่ดาวเจ้าเรือนปุตตะ)
v    ถ้านับจากราศีเมษต่อไปจนถึงราศีที่ ๖ พบดาวอะไรอยู่ตรงนั้น ดาวนั้นเป็นหกแก่ลัคน์ หรืออยู่ในเรือนอริแก่ลัคน์ (ไม่ใช่ดาวเจ้าเรือนอริ)
v    ถ้านับจากราศีเมษต่อไปจนถึงราศีที่ ๗ พบดาวอะไรอยู่ตรงนั้น ดาวนั้นเป็นเจ็ดแก่ลัคน์ หรือเล็งลัคน์ หรืออยู่ในเรือนปัตตานิ (ไม่ใช่ดาวเจ้าเรือนปัตตานิ)
v    ถ้านับจากราศีเมษต่อไปจนถึงราศีที่ ๘ พบดาวอะไรอยู่ตรงนั้น ดาวนั้นก็เป็นแปดแก่ลัคน์ หรือดาวนั้นอยู่ในเรือนมรณะแก่ลัคน์ (ต่างกันดาวเจ้าเรือนมรณะ)
v    ถ้านับจากราศีเมษต่อไปจนถึงราศีที่ ๙ เรียกว่าดาวนั้นเป็นเก้าแก่ลัคน์ หรือดาวอยู่ในเรือนศุภะ หรือตรีโกณแก่ลัคน์
v    ถ้านับจากราศีเมษต่อไปจนถึงราศีที่ ๑๐ พบดาวอะไรอยู่ตรงนั้น  ก็ดาวนั้นเป็นสิบแก่ลัคน์ หรือดาวนั้นสถิตอยู่ในเรือนกรรมะ ถ้าเป็นเรือนที่สิบของราศีเมษ พฤษภ สิงห์ มีเรียกอีกอย่างว่าดาวได้ตำแหน่งปัศวเกณฑ์
v    ถ้านับจากราศีเมษต่อไปจนถึงราศีที่ ๑๑ พบดาวอะไรอยู่ตรงนั้น ก็ดาวนั้นเป็นสิบเอ็ดแก่ลัคน์ หรือโยกหลังลัคน์ หรืออยู่ในเรือนลาภะของลัคน์
v    ถ้านับจากราศีเมษต่อไปจนถึงราศี ๑๒ สุดท้าย พบดาวอะไรอยู่ตรงนั้น ดาวนั้นเป็นสิบสองแก่ลัคน์หรือวินาสน์ลัคน์
v    แต่ถ้าเป็นดาวจรบนท้องฟ้า โคจรเข้ามาตรงกับราศีที่ลัคนาอยู่  เราไม่เรียกว่าดาวนั้น ๆ โคจรมากุมลัคน์ ต้องเรียกว่าทับลัคน์
v    เนื่องจากดาวในท้องฟ้ามักมีการโคจรหรือเดินจากราศีนี้ไปราศีนั้น เร็วไปบ้าง ช้าไปบ้างหรือถอยหลังไปบ้างย่อมมีการเรียกต่างกันไป  เช่นเดินหน้าเร็วผิดปกติ เรียกว่าเสริด  ถ้าถอยหลังเรียกว่าพักร์ ถ้าเดินหรือโคจรอยู่กับที่เรียกว่ามณฑ์

คามจริงคำศัพท์ที่เป็นภาษาของโหราสาดมีอีกมาก แต่ขอบอกเพียงเท่านี้ก่อน ขืนนำมาบอกทั้งหมด เดี๋ยวท่านจะรับไม่ไหว และที่บอกมานี้ท่านอย่าว่าเป็นเรื่องหญ้าปากคอกเป็นอันขาด ท่านต้องจำให้ได้ และต้องเข้าใจว่านี่เป็นเพียงเฉพาะพื้น ๆ เท่านั้น ถ้าไม่ทำความเข้าใจ หรือตระหนักว่าเป็นพื้นฐานส่วนสำคัญยิ่ง ต่อไปท่านก็จะงง ๆ ตอนที่โหรกับโหรคุยกันนั่นเอง เมื่อคุณฟังภาษาโหรไม่ออกคุณก็จะเป็นแค่โหน คือยังห่างไกลความเป็นโหรนั่นเอง และถ้าท่านได้อ่านตำราชุดนี้ของผมจบแล้วเป็นได้แค่โหน ขอได้โปรดทราบว่า ผมจะรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่ง !!!

ไพ่ยิปซี The Magician / ไพ่ผู้วิเศษ - มุมเรียนรู้ไพ่ยิปซีออนไลน์ ไพ่ยิปซีพลังจิต ไพ่ทาโรต์จิตสัมผัส ขอเชิญพิสูจน์ความแม่นยำ

ดูดวงไพ่ยิปซีจิตสัมผัส ดูดวงความรัก ทำนายความรักของคุณในช่วงที่ผ่านมา ปันจุบัน และอนาคตว่าจะเป็นเช่นไร สุขสมหวัง เจอเนื้อคู่มั้ย หรือจะมีเรื...