ถ้าผมจะพูดกันถึงดวงดาวที่นำมาใช้กับการพยากรณ์ ผมก็จะหมายถึงดาวจำนวนหนึ่งที่ไม่มากนัก เพียง 10 ดาวหรือ 10 ดวงเท่านั้น และแน่ใจว่าพอผมพูดจบหรือเขียนจบท่านที่รักจะต้องจำได้ทันที ดาวดวงแรกที่สำคัญที่สุดในกระบวนการของโหราสาดคือ
1. พระอาทิตย์ ดาวดวงนี้เขาใช้เลข (๑) แทน ตามหลักทางดาราศาสตร์กล่าวกันว่าเป็นดาวที่มีแสงสว่างในตนเอง เมื่อมีแสงสว่างความร้อนก็มีด้วย ไม่เชื่อท่านลองออกไปยืนตากแดดดูสักพักก็จะหายสงสัย คงเพราะร้อนนี่เองจึงจัดให้เป็นดาวธาตุไฟ ตามหลักเขาถือกันว่าถ้าจะทายเรื่องชื่อเสียงหรือยศศักดิ์ ตำแหน่งหน้าที่การงาน การเดินทาง การโยกย้ายตำแหน่งงาน ให้เอาอาทิตย์มาทาย นี่ว่ากันเฉพาะเบื้องต้นเท่านั้น ยังไม่นับการเป็นเจ้าเรือนในดวงชะตา 12 ราศีจักร และเจ้าเรือนทักษา หรือเข้าไปเกี่ยวข้องกับดาวอื่น ๆ ในกรณีพิเศษ ทั้งยังจัดให้เป็นดาวอยู่ในประเภทให้โทษ
2. ดาวจันทร์ ใช้เลข (๒) แทน ดาวดวงนี้ไม่มีแสงสว่างในตัวเอง และเป็นดาวที่อยู่ใกล้โลกเรามากที่สุด ถ้าเป็นข้างแรมดูด้วยตาจะไม่ค่อยสดใสมากนัก หรือบางคืนก็มองไม่เห็นเลย แต่ข้างขึ้นแก่ ๆ กลับสดใสงดงามเป็นพิเศษ ดาวจันทร์หรือดวงจันทร์แม้จะมีอำนาจดึงดูดน้ำ สามารถทำให้น้ำขึ้นน้ำลงได้ แต่ทางโหราสาดจัดเข้าไปอยู่ในประเภทธาตุดิน คงเพราะเห็นว่าดาวจันทร์เวลาที่มันปรากฏตัวให้เราเห็นบนท้องฟ้าสวยสดงดงาม จึงนำมาทำนายทายทักถึงความมีเสน่ห์ ความงาม ความเรรวนปรวนแปรง่าย เพราะสภาพของจันทร์เปลี่ยนรูปไปทุกวัน ดาวจันทร์ถูกแยกประเภทไว้ในทางดี คือเป็นดาวศุภเคราะห์ จะเห็นได้ชัดว่าวันใดที่เข้ามาเล็งลัคน์หรือทับลัคน์ย่อมจะทำให้ผู้นั้นมีโชค ไม่อาหารการกินก็การเงิน ยิ่งมีดาวศุกร์เข้ามาทำมุมดีด้วยยิ่งมีลาภมาก
3. ดาวอังคาร ใช้เลข (๓) แทน เป็นดาวที่อยู่ไกลโลกเราออกไปหน่อยหนึ่ง ส่วนจะไกลออกไปสักเท่าไรต้องไปหารายละเอียดจากวิชาการดาราศาสตร์ซึ่งมีอยู่มากมาย ผมเคยเห็นภาพถ่ายจากดาวเทียมมาบ้างจากหน้าหนังสือพิมพ์ ดูก็สวยสดดีแต่สีออกจะเข้มไปหน่อย ไม่ค่อยสบายอารมย์สักเท่าไร สู้มองภาพของดาวจันทร์ไม่ได้ ดาวอังคารหรือดาวหมายเลข (๓) นี้ถูกจัดไว้ในประเภทธาตุลม และเป็นดาวบาปเคราะห์ หน้าที่หลักคือให้โทษ บางคราวก็ทำเอาหัวร้างข้างแตก เล่นกันถึงตายหรือเลือดตกยางออกก็มี แต่ในพื้นดวงถ้าได้ตำแหน่งหรืออยู่ในมุมที่ดีคือความเอาจริงเอาจัง กล้าได้กล้าเสียแบบนักเลง ขยันขันแข็งต่อการงาน ทำอะไรมุมานะจนบางคราวก็ทำให้ตัวเองลำบาก อยู่ไม่ค่อยเป็นสุขสักเท่าไร แต่ถ้าเป็นดาวจรมาไม่น่าไว้ใจ
4. ดาวพุธ ใช้เลข (๔) แทน ดาวดวงนี้อยู่ไม่ไกลจากโลกมากนัก ตามหลักถือกันว่าเป็นดาวให้คุณหรือดาวศุภเคราะห์ การจำแนกธาตุของดาว ดาวพุธอยู่ในฝ่ายธาตุน้ำ และก็เป็นดาวบริวารของอาทิตย์เช่นเดียวกับดาวอื่น ๆ ที่กล่าวมาแล้ว เพราะต่างก็ไม่มีแสงสว่างเป็นของตัวเองตัวเอง ตามหลักโหราสาดหมายถึงการพูด การติดต่อ การสื่อสาร พูดดีพูดร้ายอยู่ที่ดาวพุธดวงนี้ คือถ้าอยู่กับดาวดีหรือได้ตำแหน่งดีและทำมุมดีกับลัคนาของใครก็ตาม คนนั้นจะมีโชคหรือพรสวรรค์ในการพูด ๆ เป็นเงินเป็นทอง แม้พูดโกหกก็มีคนเชื่อ แต่ถ้าลงเสียเมื่อไรจะพูดตรงกันข้ามทีเดียว คือพูดเก่งเหมือนกัน แต่จะกลายเป็นกะล่อนไปวัน ๆ พูดตรง และบางคราวก็ขวางหูคนฟัง
5. ดาวพฤหัสบดี ใช้เลข (๕) แทน ดาวดวงนี้แม้จะไกลจากโลกแต่ก็เป็นดาวที่มีขนาดใหญ่ สามารถส่งพลังความดีความมีโชคมาถึงโลกเราได้ดี จนต้องยอมรับกันว่าเป็นเทพเจ้าแห่งการมีโชคลาภ เป็นดาวธาตุดินที่หนักแน่น ลงให้คุณใครแล้วจะให้เต็มที่ และต่อเนื่องกันหลายปี ในจำนวนการโคจรรอบโลก 12 ปี จะให้โทษเพียง 3 ปีเท่านั้น แต่นั่นก็หมายถึงว่าต้องโคจรอย่างปกติ ถ้าวิปริตเมื่อใดจะให้โทษแรงจนยากที่จะต้านทานไหวเหมือนกัน หลักของดาวพฤหัสบดีนอกจากเป็นเทพเจ้าแห่งการมีโชคลาภหลายอย่างแล้ว ยังเป็นดาวที่บ่งบอกถึงความสามารถในการศึกษาวิชาการ และความมีคุณธรรม ความเที่ยงตรง ไม่เอาเปรียบใครแม้จะมีช่องทางเปิดอ้ารออยู่ แทบทุกคนที่มีดาวดวงนี้ให้คุณ ย่อมเป็นคนที่ได้รับการศึกษาดี มีความรับผิดชอบดี สามารถประสบความสำเร็จด้านการงานสูง
6. ดาวศุกร์ ใช้เลข (๖) แทน ดาวดวงนี้กล่าวยกย่องกันว่าเป็นดาวกามกิเลสกำดัด เป็นดาวที่ให้คุณอย่างกว้างขวางครอบจักรวาฬ ความหมายของคำว่ากามกิเลสกำดัดหมายถึงการมัวเมาในรูปรส กลิ่นเสียงและสัมผัสอันนุ่มนวล รูปไม่สวย ไม่ชอบ รสไม่ถูกปากถูกลิ้นไม่นิยม กลิ่นเน่าเหม็นไม่ชอบ ชอบแต่กลิ่นหอมหวานซ่านใจ สัมผัสทางกายเนื้อต้องนุ่มนวล ถ้าหยาบกระด้างไม่ปรารถนานอกจากที่กล่าวมายังหมายถึงเงินด้วย ดาวดวงนี้ของใครถ้าดีเงินทองต้องดี เมื่อเงินดีต้องการดาวเดือนก็ย่อมได้ ดาวศุกร์ย่อมเป็นธาตุน้ำคู่กับดาวพุธ ตำแหน่งที่อยู่ก็ไม่ไกลจากโลกที่เราอาศัยอยู่มากนัก บางวันสามารถมองเห็นได้ชัดเจน ถ้าช่วงไหนที่จรมาเข้ามุมดีกับลัคนา หมายถึงในช่วงนั้นเงินหมุนเวียนสะพัดคล่อง ความรักจะสดใส และความรักความใคร่จะหดหู่ทันทีที่ขาดเงินยามที่ดาวดวงนี้โคจรสับสน
7. ดาวเสาร์ ใช้เลข (๗) แทน ดาวดวงนี้เป็นดาวธาตุไฟ อยู่ไกลออกไปจากโลก แต่ก็จัดว่าเป็นดาวดวงใหญ่ดวงหนึ่ง สามารถแผ่อิทธิพลความทุกข์ยากมายังมวลมนุษย์ที่อยู่บนพื้นผิวของโลกได้ เป็นดาวประเภทบาปเคราะห์ คือให้โทษทุกข์และอุปสรรคเป็นหลัก แต่การให้โทษไม่โครมครามเหมือนดาวอื่น ค่อยเป็นค่อยไปคือทวีความทุกข์ยากเข้ามาทีละน้อย ๆ เหมือนนายพรานล่าเหยื่อต้อนเหยื่อให้เข้ามุมอับก่อนแล้วค่อยเผด็จศึกทีหลัง บางคราวโทษอันเกิดจากดาวเสาร์ดูยังไม่น่าจะหนักหนา แต่พอดาวบาปเคราะห์อื่นเข้าร่วมวง เรื่องเล็กก็กลายเป็นเรื่องใหญ่อย่างคิดไม่ถึง ดังนั้นจึงควรต้องระวังอย่างมาก โดยเฉพาะคนใจร้อนอาจเป็นฟืนเป็นไฟได้ง่าย บางรายเครียดจัดจนไม่อาจคุมสติได้ ต้องเข้าโรงพยาบาลบ้าไปก็มี ถ้าในดวงชะตาใดมีดาวดวงนี้กุมลัคน์หรือเล็งลัคน์จะแรงมาก ถือกันว่าเป็นคนดวงแตกดวงร้าวหรือที่เรียกกันตามภาษาโหรว่าเป็นดวงพินธุบาทหมายถึงเอาดีไม่ได้ ต้องล้มลุกคลุกคลานไปตลอดชีวิต นอกจากเข้ากฏข้อห้ามเท่านั้นจึงพอทุเลาไปได้
8. ราหู ใช้เลข (๘) แทน เรื่องของราหู ในวงการโหรหรือนักโหราสาดบอกว่าไม่ใช่ดาว เป็นเพียงเงามืด แต่ก็อุตส่าห์จัดแยกออกเป็นดาวธาตุลม เพื่อให้เข้าคู่กับอังคาร (๓) จะอย่างไรก็ตามแม้ไม่เป็นดาวเหมือนดาวอื่น ๆ แต่ราหูก็จัดอยู่ในประเภทให้โทษในด้านมัวเมา ลุ่มหลง พอใจเรื่องอบายมุขทั่วไป เช่นชื่นชอบสุรานารีพาชีกีฬาวิบัติทุกชนิด หวยบนดินหวยใต้ดิน แทงบอลล์ นอกจากนั้นเวลาจรมาแต่ละเที่ยวทำเอาหลายคนต้องห่อเหี่ยวใจ แต่ในความดีก็พอมีบ้าง คือถ้าอยู่กับดาวพฤหัสบดีก็มัวเมาไปในทางดี คือชอบในเรื่องของการศึกษาค้นคว้าวิชาการชนิดทุ่มเทสุดหัวใจ เป็นคนรักจริงเกลียดจริง ชอบทำกิจการเกี่ยวกับต่างประเทศ ภาษาต่างประเทศดี หญิงบางคนชื่นชอบสามีที่เป็นชาวต่างประเทศ เพราะเมื่อจดทะเบียนเป็นทางการแล้ว พอหย่าเธอมักจะได้ลาภทรัพย์สินเงินทองไปตั้งตัวได้บ้างตามควรแก่ฐานะ ต่างจากมีสามีชาติเดียวกันที่บางรายเอากันถึงตาย
9. เกตุ ใช้เลข (๙) แทน นี่ก็ถือว่าไม่ใช่ดาวเหมือนกัน แต่ก็มีอิทธิพลต่อชีวิตให้เป็นคนเฉลียวฉลาด มีความรู้สึกทางจิตดี สามารถเอาตัวรอดได้ในยามคับขัน บางคนฝันแม่น ที่เขาเรียกว่ามีญาณพิเศษนั่นแหละ เกตุกล่าวกันว่าเป็นวิญญาณธาตุ โหรบางคนบอกว่าเป็นหัว-หางกับราหู สำหรับนักดาราศาสตร์ก็ว่าไปอีกอย่างหนึ่ง ในบางรายหรือหลายรายแสดงถึงการผิดธรรมชาติ หรือเป็น ๒ ก็มี เช่นธรรมชาติมีการคลอดบุตรเพียงคนเดียวต่อครั้ง แต่พอมีเกตุเข้ามาเกี่ยวข้องกลับมีลูกแฝด บางคนก็มีสามีแฝดโดยไม่ตั้งใจ คือคนเก่ายังไม่ทันเลิกขาด ก็ไปพบคนใหม่อีกคน ใครที่จะเรียนโหราสาดเก่งจึงต้องเกี่ยวกับเกตุด้วย บางรายเกตุก็อยู่กับดาวพฤหัสบดี เกตุถ้าอยู่กับดาวดีก็ให้คุณ อยู่กับดาวร้ายจะให้โทษ
10. มฤตยู ใช้เลข (๐) แทน นี่ก็ไม่ระบุชัดว่าเป็นดาวหรือไม่ใช่ดาว แต่ก็ให้โทษรุนแรงด้านการทำลายล้าง สามารถเล่นงานคนถึงตายได้ อยู่ในเรือนไหนทำลายเรือนนั้น อยู่กับดาวอะไรก็ทำลายดาวนั้น ดูไปแล้วก็เหมือนเป็นตัวนำความตายไปให้ใครต่อใครดี ๆ นี่เอง ดังนั้นใครก็ตามหากดาวมฤตยูอยู่ในเรือนการเงินแล้วละก้อควรต้องเก็บเงินซ่อนให้มิดชิด มิฉะนั้นจะไม่เหลือให้เก็บ มฤตยูเป็นดาวที่ไม่มีบ้านไม่มีเรือนเป็นของตนเอง ไม่ว่าในดวงทักษาหรือในดวงราศีจักรซึ่งก็เหมือนกับเกตุ แต่ก็เป็นธาตุเดียวกัน ถ้าร่วมราศีกันก็จะดีด้านสิ่งลี้ลับมหัศจรรย์
เรื่องของดวงดาวทั้งหลาย ที่ผมนำมาแจกแจงให้ท่านผู้อ่านที่รัก ได้อ่านกันมาจนครบ ๑๐ ดวงนี้ ท่านต้องจำได้บ้าง อย่างน้อยก็ต้องรู้ว่าดาวอะไรแทนด้วยเลขอะไร เป็นธาตุอะไร และดาวอะไรให้คุณ ดาวอะไรให้โทษ ส่วนนิสัยหรือเอกลักษณ์ประจำตัวของแต่ละดาว เอาไว้ค่อยเป็นค่อยไป ไม่ต้องไปนั่งท่อง แค่เปิดอ่านบ่อย ๆ ก็น่าจะจำได้ ถ้าอยากจะจำได้เร็วก็ควรจะแสดงความคารวะด้วยดอกไม้ธูปเทียนแก่ท่านบูรพาจารย์โหรที่ท่านล่วงลับไปแล้วก่อนที่จะเปิดอ่าน ก็จะเป็นการดียิ่ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น